กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ดึงแบรนด์ไทยศักยภาพ เข้าร่วมโครงการ TOPTHAI Flagship Store ประเดิมครั้งแรกบนเว็บไซต์ Tmall Global ผลักดันสินค้าไทยคุณภาพเข้าสู่ตลาดออนไลน์จีน พร้อมเปิดตัวร้านอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจากการแข่งขันในตลาดโลกรุนแรง โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ
ที่มีการใช้มาตรการด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีในการกีดกันการค้าระหว่างกันมากขึ้น ผลพวงที่เกิดขึ้นทำให้จีนเปิดเศรษฐกิจและส่งเสริมการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ มากขึ้น นอกจากนี้การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้การค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2564 มูลค่าตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 159.74 ล้านล้านบาท (4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเล็งเห็นถึงโอกาสในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยผ่านการขายออนไลน์ข้ามพรมแดนในประเทศศักยภาพมากขึ้น โดยวางแผนดำเนินการ TOPTHAI Flagship Store โมเดลใหม่ที่จะเพิ่มช่องทางการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการไทยให้สามารถต่อยอดธุรกิจจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ได้อย่างเต็มรูปแบบ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้าของไทยในสายตาผู้ซื้อต่างชาติอีกด้วย ซึ่งกรมได้ประเดิมเปิดร้าน TOPTHAI Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall Global ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบ B2C ในเครืออาลีบาบาที่มียอดขายอันดับ 1 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
สำหรับ เว็บไซต์ Tmall Global เน้นจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่มีคุณภาพสูงและเป็นแบรนด์เนมจากต่างประเทศ โดยร้าน TOPTHAI Flagship Store คือร้านค้าของรัฐบาลไทยที่รวบรวมสินค้าไทยคุณภาพแบ่งร้านค้าสำหรับ 4 หมวดหมู่
สินค้า ได้แก่ 1. ร้านเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย (Apparel Store) 2. ร้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม (Personal Care Store) 3. ร้านเครื่องสำอาง (Beauty) และ 4. ร้านอาหาร (Food Store)
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีแผนในการเปิดตัวร้าน TOPTHAI Flagship Store อย่างเป็นทางการ ในงาน China International Import Expo 2019 (CIIE 2019) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 -20 พฤศจิกายน 2562 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในงาน 11.11 หรือวันคนโสด รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ร้านค้าในเชิงรุกไปยังกลุ่มลูกค้าชาวจีนทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยขณะนี้มีบริษัทเข้าร่วมรวมจำนวน ประมาณ 40 บริษัทจากกลุ่มสินค้า แฟชั่น อาหาร และ สุขภาพและความงาม อาทิ Kloset, Sabina, โครงการUnited Food และ Tropicana Oil ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเตรียมผลักดันโมเดล TOPTHAI Flagship Store บนแพลตฟอร์มศักยภาพอื่นๆ ในกลุ่มตลาดเป้าหมายเพิ่มเติม อาทิ ตลาดอินเดีย ตลาดอเมริกา และตลาดอาเซียน เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการหารือในความเป็นไปได้ร่วมกันต่อไป
ปัจจุบัน ตลาด e-Commerceที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก อยู่ในประเทศจีนมีขนาดตลาดมากกว่า 24.12 ล้านล้านบาท (0.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา (ขนาดตลาดเท่ากับ 18.26 ล้านล้านบาท หรือ 0.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) สหราชอาณาจักร (2.93 ล้านล้านบาท หรือ 0.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ญี่ปุ่น (2.84 ล้านล้านบาท หรือ 0.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และ เยอรมนี (2.51 ล้านล้านบาท หรือ 0.08 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaitrade.com/knowledge หรือ 02-5077825 หรือสอบถามรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่เบอร์ 094-632-2020, 085-821-5588
********************************
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ