สธ. คิกออฟ “One Region – One Province – One Hospital” จ.นราธิวาส ยกระดับระบบบริการสุขภาพชายแดนใต้

กระทรวงสาธารณสุข ชูจุดเด่นจังหวัดนราธิวาส ด้านโครงสร้างเครือข่ายบริการสุขภาพและการใช้ทรัพยากรร่วมกัน สู่ One Region One Province One Hospital ยกระดับบริการสุขภาพชายแดนใต้ ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานเดียวกันอย่างเท่าเทียม

วันที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดโครงการ Kick off One Region – One Province – One Hospital จังหวัดนราธิวาส โดยมี นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 นพ.กู้ศักดิ์ บำรุงเสนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส นพ.พรประสิทธิ จันทระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ เข้าร่วม

นพ.ศักดา กล่าวว่า นโยบาย “One Region One Province One Hospital” เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งยกระดับระบบบริการสุขภาพของประเทศให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างคุ้มค่า เกิดการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยบริการทุกระดับ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมและต่อเนื่อง ซึ่งจังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดชายแดนที่มีบริบทและความท้าทายเฉพาะ ทั้งด้านภูมิศาสตร์ การเข้าถึงบริการ และความหลากหลายของประชากร การพัฒนาระบบบริการสุขภาพแบบเครือข่าย จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและจำเป็นเพื่อให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานอย่างทั่วถึง

“จังหวัดนราธิวาส มีศักยภาพและความพร้อมในการขับเคลื่อนระบบบริการสุขภาพแบบเครือข่าย ภายใต้นโยบายดังกล่าว และสามารถต่อยอดผลการดำเนินงานให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนในระยะต่อไปได้ ด้วยการมีโครงสร้างเครือข่ายบริการสุขภาพที่ครอบคลุมโรงพยาบาลทุกระดับทั้งจังหวัดและการพัฒนาระบบบริการสุขภาพร่วมกันในหลายสาขาสำคัญ โดยมุ่งเน้นการทำงานแบบเครือข่าย ใช้ทรัพยากร บุคลากร และศักยภาพทางวิชาชีพร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพใกล้บ้านมากยิ่งขึ้น” นพ.ศักดา กล่าว

ด้าน นพ.อภิชาต กล่าวเสริมว่า จากการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนและการใช้ระบบเครือข่ายบริการของจังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้สามารถลดการส่งต่อผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นและเพิ่มการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในสาขาที่มีความสำคัญสูง เช่น สาขาทารกแรกเกิด โรงพยาบาลชุมชนสามารถรับผู้ป่วยกลับไปดูแลต่อในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่สาขาโรคหลอดเลือดสมอง อัตราการเข้าถึงระบบทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Fast Track) เพิ่มขึ้นเช่นกัน และการส่งต่อกลับไปดูแลต่อเนื่องที่โรงพยาบาลชุมชนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.20 เป็นร้อยละ 45.10 นอกจากนี้ ยังได้จัดระบบกระจายสูติแพทย์ให้รับผิดชอบ 1 คนต่อ 1 อำเภอ และออกตรวจการฝากครรภ์กลุ่มเสี่ยงสูงครบทุกอำเภอ ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่และลดการส่งต่อที่ไม่จำเป็นอีกด้วย