“รมว. พัฒนา” ห่วงสุขภาพจิตประชาชน – เจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิง ย้ำให้ติดตามดูแลกลุ่มเครียดสูง/เสี่ยงทำร้ายตนเองใกล้ชิด พร้อมจัดบริการดูแลหญิงตั้งครรภ์เพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ ติดตามสถานการณ์และร่วมวางแผนระบบการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจบุคลากรการแพทย์และประชาชนในศูนย์พักพิง เผย ห่วงสุขภาพจิต เนื่องจากพบมีผู้ที่เครียดสูงและเสี่ยงทำร้ายตนเอง ย้ำให้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด จัดรถ “Mobile เพื่อนใจ” ให้คำปรึกษา ประเมินความเครียด ดูแลฟื้นฟูสุขภาพจิต พร้อมกับจัดบริการคัดกรองสุขภาพ รวมถึงติดตามหญิงตั้งครรภ์เพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก

วันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ (เขตสุขภาพที่ 10) เพื่อติดตามสถานการณ์ และร่วมวางแผนระบบการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังคงตึงเครียดในหลายพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และฝ่ายความมั่นคง บริหารจัดการและจัดบริการด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตให้กับประชาชนที่พำนักอยู่ในศูนย์พักพิงทุกแห่ง โดยที่จังหวัดอุบลราชธานีมี 95 ศูนย์ฯ ผู้เข้าพัก 36,721 คน เป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ 8,645 คน ได้จัดบุคลากรดูแล 950 คน ส่วนจังหวัดศรีสะเกษมี 523 ศูนย์ฯ ผู้เข้าพัก 113,110 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 22,066 คน จัดบุคลากรดูแล 1,350 คน นอกจากนี้ ยังมีทีมปฏิบัติการ ทั้ง ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ MERT /Mini-MERT, ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง (ALS), ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค, ทีมปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม, ทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉินด้านห้องปฏิบัติการและรังสี และทีมช่วยเหลือทางด้านจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต รวม 242 ทีม ร่วมดูแลเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ ให้ความรู้ในการป้องกันโรค ดูแลด้านสุขอนามัย ดูแลสภาพจิตใจประชาชน รวมถึงมี อสม.เข้ามาร่วมดูแลด้านคุณภาพน้ำในศูนย์พักพิงฯ ด้วย

นายพัฒนากล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือ สภาพจิตใจของผู้อพยพ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้คัดกรองสุขภาพจิตของประชาชนในศูนย์พักพิงของทั้ง 2 จังหวัด รวม 76,311 คน พบว่ามีความเครียดสูง 536 คน และเสี่ยงทำร้ายตนเอง 176 คน ในส่วนบุคลากรที่ปฏิบัติงาน คัดกรอง 1,688 คน พบมีความเครียดสูง 80 คน และเสี่ยงทำร้ายตนเอง 23 คน ซึ่งได้รับการปฐมพยาบาลทางใจแล้ว ได้กำชับให้ติดตามอย่างใกล้ชิดทุกราย และจัดรถ “Mobile เพื่อนใจ” สำหรับให้คำปรึกษา ประเมินความเครียดด้วยเครื่องมือ Biofeedback, VR และดูแลฟื้นฟูสุขภาพจิตประชาชนหรือที่ต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังให้เน้นดูแลหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นหนึ่งกลุ่มเปราะบางที่สำคัญ โดยในศูนย์พักพิงฯ มี 184 ราย ได้จัดบริการคัดกรองสุขภาพและติดตามอายุครรภ์อย่างใกล้ชิด หากพบภาวะเสี่ยงจะส่งต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อให้ทั้งแม่และทารกปลอดภัย