
วันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยเจรจาหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีนายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวต้อนรับ และนายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวรายงาน ซึ่งมีนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล อธิบดีกรมคุมประพฤติ และนายเฉลิมชัย บัวจันอัด รองอธิบดีกรมบังคับคดี พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมในพิธีเปิด ซึ่งมีหน่วยงาน สถาบันการเงิน และภาคเอกชน จำนวน 11 แห่ง โดยได้มีการออกหนังสือเชิญลูกหนี้เข้าร่วมงานมากกว่า 4,400 ราย ทุนทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท ณ โรงแรมโมเดนา บาย เฟรเซอร์ บุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญในการแก้ไข ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษากับเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยด้วยความสมานฉันท์ และเป็นธรรมทุกฝ่าย อันเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านหนี้สินให้กับประชาชน รวมถึงเป็นการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ในการจัด “มหกรรมไกล่เกลี่ยเจราจาหนี้หลังศาลมีคำพิพากษา” ในครั้งนี้ เป็นกลไกสำคัญในการช่วยลดภาระหนี้สินของประชาชน ให้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อย่างเป็นธรรม และลดการใช้กระบวนการบังคับคดีที่ไม่จำเป็น เรายึดหลักยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เน้นการเจรจาไกล่เกลี่ย และการหาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยมุ่งหมายให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและยั่งยืน โดยไม่ถูกบังคับคดีและยึดทรัพย์ จากภาระหนี้ที่เกินความสามารถชำระได้

นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มหนี้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้นำเป้าหมายของรัฐบาลในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยกรมบังคับคดีเป็นหน่วยงานที่ดูแลหนี้สินของประชาชนภายหลังศาลมีคำพิพากษา ได้ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นหน่วยงานที่ดูแลหนี้สินของประชาชนก่อนฟ้อง ได้นำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมาใช้เป็นกระบวนการยุติธรรมทางเลือกเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ได้เจรจาผ่อนผันการชำระหนี้ ด้วยความสมัครใจ เน้นการทำงานเชิงรุกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการงานยุติธรรม ได้อย่างทั่วถึงรวดเร็วและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ภายในงานพบกับข้อเสนอพิเศษ อาทิ การขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ การงดการยึดทรัพย์ การงดการขายทอดตลาด การให้ส่วนลดในการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยหรือให้เงื่อนไขพิเศษกรณีชำระหนี้ปิดบัญชี เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดบูธนิทรรศการบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีและแจกเอกสารประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้ที่เว็บไซต์ กรมบังคับคดี www.led.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79











