กรมส่งเสริมการเกษตรดึงแนวคิด IDG พัฒนาคนจากภายใน ขับเคลื่อนงานเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน ชู “วิสาหกิจชุมชนบ้านแพมบก แม่ฮ่องสอน” ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากคน

กรมส่งเสริมการเกษตรวางรากฐานการพัฒนาคนตามแนวคิด IDG (Inner Development Goals) หรือ “การพัฒนาจากภายใน” เพื่อยกระดับบุคลากรและเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ เน้นเสริมทักษะด้านการตระหนักรู้ตนเอง การสื่อสารเชิงบวก การคิดเชิงระบบ และการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างมีส่วนร่วม โดยเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเริ่มจาก “คนที่คิดเป็น ทำเป็น และทำด้วยใจ”

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า แนวคิดเป้าหมายการพัฒนาจากภายใน IDG คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้เจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานใกล้ชิดกับองค์กรชุมชน “เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรฟังอย่างลึก เข้าใจความต้องการของชุมชน และสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ไม่ใช่แค่ถ่ายทอดเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดของคนทั้งชุมชนไปพร้อมกัน”

หนึ่งในพื้นที่ความสำเร็จคือ “บ้านแพมบก” อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปหนุนเสริมการทำงานแบบมีส่วนร่วม ภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอนโมเดล” ผู้นำและสมาชิกวิสาหกิจชุมชนใช้กระบวนการคิดเชิงบวก การฟังอย่างลึก และการเรียนรู้ร่วมกัน จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นายบุญอนันต์ เหล่อโพ ผู้ประสานงานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนบ้านแพมบก เล่าว่า บ้านแพมบก อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยมีสะพานโขกู้โส่ หรือสะพานบุญไม้ไผ่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซูตองเป้ เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ผสานธรรมชาติ เด่นด้วยทุ่งนา ภูเขา และบรรยากาศหมอกในฤดูหนาว ที่กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยม โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาวที่กินระยะยาวนานกว่า 8 เดือนต่อปี

ในด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ชุมชนได้พัฒนาเป็นรูปแบบ “ทัวร์อินดี้” ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสัมผัสวิถีเกษตรอย่างแท้จริง ทั้งการนั่งรถซาเล้งเที่ยวสะพาน ทำไม้กวาดปุ๋มเป้ง ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นหนึ่งเดียวในโลก การทำ “น้ำพริกคั่วทรายกล้วยหอมทอง” การร่วมปลูกผัก เก็บผัก และเรียนรู้การทำปุ๋ยในแปลงเกษตร กิจกรรมเหล่านี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่เดินทางมาร่วมเรียนรู้กับชุมชนเป็นประจำ

ชุมชนยังสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตอย่างต่อเนื่องภายใต้ “โครงการแม่ฮ่องสอนโมเดล” ของกรมส่งเสริมการเกษตร ช่วยให้เกษตรกรเข้าใจการวางแผนการผลิตมากขึ้น จากเดิม “ทำมากได้น้อย” สู่ระบบเกษตรที่ “ทำน้อยได้มาก” โดยมีองค์ความรู้ด้านการจัดการแปลง การทำปุ๋ยอินทรีย์ การลดต้นทุน และการบันทึกต้นทุน–รายได้อย่างเป็นระบบ ส่งผลให้รายได้ของครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ปัจจุบันผลผลิตสำคัญของบ้านแพมบก เช่น ซาโยเต้ ผักกูด กล้วยหอมทอง ผักปลอดภัย และผลิตภัณฑ์แปรรูป กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นแบรนด์ “บ้านแพมบก” เพื่อขยายตลาด โดยเฉพาะกล้วยหอมทองเกรดพรีเมียมที่สามารถจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในตัวเมืองปายได้ในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 20–25 บาท ส่วนเกรดรองถูกนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า เช่น กล้วยฉาบและน้ำพริกคั่วทรายกล้วยหอม

ชุมชนมีการบริหารงานร่วมกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านแพมบก (โขกู้โส่)  ดูแลพื้นที่สะพาน การต้อนรับนักท่องเที่ยว และการจัดการท่องเที่ยวทั้งหมด และ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนผักเขียวบ้านแพมบก ดูแลการผลิตผักปลอดภัย ผลิตภัณฑ์แปรรูป และสินค้าชุมชน

ด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชนได้รับการสนับสนุนจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และกรมส่งเสริมการเกษตร ในการเปิด “เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรคาร์บอนต่ำ. (Low Carbon Tourism) ” ทั้งการชดเชยคาร์บอนจากบรรจุภัณฑ์ การเก็บขวดพลาสติกเพื่อนำไปรีไซเคิล การปลูกป่าดูดซับคาร์บอน เช่น “คลิปทัวร์ดำนา” ซึ่งผ่านการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์อย่างเป็นทางการแล้ว  ชุมชนมุ่งเน้นให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้จากของจริงและประสบการณ์จริง เพราะบ้านแพมบกมีศักยภาพหลายมิติ ทั้งการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และระบบเกษตรที่ผสมผสานความรู้สมัยใหม่เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นจากการสนับสนุนของกรมส่งเสริมการเกษตรและการร่วมกันของชุมชนทำงานในพื้นที่

“บ้านแพมบกพร้อมต้อนรับทุกคนให้มาเห็นด้วยตาตนเอง ว่าเราพัฒนาอะไรไปแล้วบ้าง และยังมีศักยภาพอะไรให้ต่อยอดได้อีกในอนาคต” นายบุญอนันต์กล่าว

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิด IDG ช่วยให้การทำงานเชิงพื้นที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรมีความลึกขึ้น จากการ “ให้ความรู้” สู่ “การเติบโตจากภายใน” ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเกิดขึ้นจริงในชุมชน และเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ไปพร้อมกับคนในชุมชน สนใจติดต่อกลุ่ม ได้ที่ Facebook การท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านแพมบก หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน .-