รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชู “สงขลาโมเดล” ใช้ระบบ PHR Emergency เชื่อมโยงข้อมูลทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข – โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ช่วยดูแลผู้ป่วยที่ใบนัดและยาสูญหายช่วงน้ำท่วม “หาดใหญ่” ให้ไม่ขาดยา ได้รับการดูแลต่อเนื่อง เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จการบูรณาการข้อมูลดิจิทัล เร่งเชื่อมโยงข้อมูลโรงพยาบาลนอกสังกัดเพิ่มเติม
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลและบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง รวมทั้งการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เนื่องจากยาประจำตัว เอกสารใบนัดหรือสมุดประจำตัวผู้ป่วยสูญหายไปกับน้ำ ทำให้เกิดความกังวลในการดูแลรักษาต่อเนื่อง ซึ่งจากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทางการแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กับโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ทำให้ในยามวิกฤตที่ประชาชนต้องหนีน้ำออกมาตัวเปล่า แต่เมื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ข้อมูลผู้ป่วยยังคงอยู่และพร้อมใช้งาน ทีมแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยได้โดยใช้ “ระบบบันทึกสุขภาพส่วนบุคคลฉุกเฉิน (PHR Emergency)” เป็นเครื่องมือหลักในการประสานงานดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์สาธารณภัยใหญ่ ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดยาและลดความคลาดเคลื่อนทางยาได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะสามารถตรวจสอบประวัติการแพ้ยาและยาที่ใช้อยู่ได้อย่างถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุม
“การเชื่อมโยงไร้รอยต่อสู่หน่วยบริการใกล้บ้าน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลสงขลานครินทร์กับเครือข่ายบริการสุขภาพจังหวัดสงขลา ทำให้ผู้ป่วยที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ต่างๆ สามารถเข้ารับบริการหรือรับยาที่หน่วยบริการเครือข่ายใกล้จุดที่อยู่ได้ทันที ถือว่าการ MOU ถูกนำมาขยายผลสู่การปฏิบัติการจริงอย่างเป็นรูปธรรม และได้พิสูจน์แล้วว่ามีคุณค่ามหาศาลในยามวิกฤต นี่คือการยกระดับบริการสุขภาพในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแท้จริง สามารถเรียกได้ว่าเป็น “สงขลาโมเดล” และสอดรับกับนโยบาย “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” อย่างเป็นรูปธรรม” นายพัฒนากล่าว
ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ความร่วมมือที่ก้าวข้ามขีดจำกัดระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผ่านการใช้ระบบ “PHR Emergency” ถือเป็นการบูรณาการข้อมูลดิจิทัลที่สามารถสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยามวิกฤต นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนา Digital Health Ecosystem ของประเทศ ซึ่งการจัดการปัญหาเฉพาะหน้าที่ทันสถานการณ์เป็นจุดเด่นที่สุด โดยระบบทำหน้าที่เสมือนระเบียนประวัติสุขภาพเคลื่อนที่ แพทย์และเภสัชกรสามารถตรวจสอบประวัติการรักษาและรายชื่อยาเดิมที่รับประทานอยู่ผ่านระบบได้ทันที ทำให้สามารถสั่งจ่ายยาชุดใหม่ทดแทนยาที่สูญหายได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งรัดพัฒนาความสมบูรณ์ของการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพกับหน่วยงานนอกสังกัดเพิ่มเติม เช่น ระบบหมอ กทม. ของโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย รวมถึงโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสุขภาพที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและธรรมาภิบาลข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรองรับการดูแลประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์