DSI จัดการประชุม TASKFORCE2025 บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ และการบังคับให้กระทำความผิด

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นประธานในการประชุม “The 2025 Joint Taskforce on Human Trafficking, Forced Labour, and Forced Criminality” หรือTASKFORCE2025 โดยจัดขึ้น ณ สโมสรราชพฤกษ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

การประชุม TASKFORCE2025 ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และภาคประชาสังคม ที่ทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ และการบังคับให้กระทำความผิด ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่มีความซับซ้อนและแปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ผิดกฎหมายและขบวนการหลอกลวงออนไลน์ในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการล่อลวงหรือบังคับให้แรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติกระทำความผิดผ่านเทคโนโลยีโดยไม่สมัครใจ อาชญากรรมเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการยกระดับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อพัฒนากลไกการสืบสวน การคุ้มครองผู้เสียหาย และการประสานงานระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และการประสานงานอย่างรอบด้าน เพื่อให้สามารถป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืน

โดยการประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม พร้อมย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันว่า “จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ตลอดการประชุม ผู้แทนจากสถานทูตและองค์กรต่างประเทศ เช่น UNODC, ASEAN-ACT, the US Homeland Security Investigation, Embassy of Kenya Metta Charity Immanuel Foundation และ Global Alms Inc. ได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ และการบังคับให้กระทำความผิด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และเครือข่ายหลอกลวงข้ามชาติ การแลกเปลี่ยนข้อมูลในช่วงนี้มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจภาพรวม การเคลื่อนไหวของเครือข่ายอาชญากรรม และช่วยให้ประสานความร่วมมือกับภาคีได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมของแต่ละภาคส่วนในอนาคต ก่อนเข้าสู่ช่วงสำคัญของการระดมความคิด ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันกำหนดลำดับความสำคัญของประเด็นปัญหา และร่วมกันออกแบบ Action Plan เบื้องต้น เพื่อจัดทำแนวทางการทำงานร่วมกันในระยะถัดไปให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากที่สุด ภายใต้กรอบการประชุมตามเอกสารโครงการ TASKFORCE 2025 ได้ตั้งเป้าว่าการดำเนินงานครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างกลไกความร่วมมือที่เข้มแข็งและเป็นเอกภาพมากขึ้น โดยมุ่งหวังให้เกิดระบบการแบ่งปันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่รวดเร็วขึ้น และการพัฒนาทักษะของเจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนเชิงรุก การคัดแยกผู้เสียหาย และการดำเนินคดี โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้กระทำความผิด นอกจากนี้ การประชุมยังมุ่งให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพของการสืบสวนคดีข้ามชาติ การเสริมความสามารถของเครือข่าย Taskforce และการสนับสนุนพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนและความมั่นคง

การประชุมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากมูลนิธิ IJM โดยเป็นการตอกย้ำถึงความร่วมมือ อันแน่นแฟ้นระหว่างภาคประชาสังคมกับหน่วยงานของรัฐ และบทบาทสากลในการสนับสนุนประเทศไทยในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติรูปแบบใหม่