ดร.นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมสัมมนา Share vision นโยบายการขับเคลื่อนด้านความปลอดภัยและการเรียนรู้กลไกและวิธีการใช้เครื่องมือพัฒนาคุณภาพ (Quality Tools) สำหรับสมาชิก 3P Safety Membership รูปแบบ Hybrid เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ 204 อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม ชั้น 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
ดร.นพ.โสภณ กล่าวว่า “การขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย บุคลากรสาธารณสุขและประชาชน ตามแนวคิด 3P Safety Hospital (Patient – Personnel – People Safety) ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืน และสอดคล้องกับ Global Patient Safety Action Plan 2021–2030 ขององค์การอนามัยโลก โดยเน้นการปกป้องความปลอดภัยของผู้ป่วย บุคลากร และประชาชนที่มาใช้บริการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ มีสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 3P Safety Hospital กว่า 1,017 แห่งทั่วประเทศ หรือคิดเป็น ร้อยละ 68 ของโรงพยาบาลทุกสังกัด ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของผู้บริหารและบุคลากรในการพัฒนาบริการให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งความปลอดภัยต้อง “อยู่ในงานประจำ” โดยผู้นำองค์กรต้องผลักดันให้มีการใช้เครื่องมือคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้ง NRLS, Safety Culture Survey, Patient Experience Program และ THIP เพื่อให้เกิดการทำงานแบบ Data Driven นำไปสู่การป้องกันการเกิดซ้ำ และการพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ข้อมูลจากระบบรายงานเหตุการณ์และข้อมูลคุณภาพต่างๆ ของ สรพ. จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ ลดความเสี่ยง และขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพในทุกระดับ ทั้งจังหวัดและเขตสุขภาพ”
“สำหรับมิติเรื่องความปลอดภัยการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยระดับประเทศ มีประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ Patient Safety Policy Integration บูรณาการความปลอดภัยเข้ากับยุทธศาสตร์บริการสุขภาพทุกระดับ ,Data-Driven Governance ใช้ข้อมูลจาก NRLS, HSCS, PEP และ THIP ในการกำกับคุณภาพแบบ real-time รวมถึง Workforce Well-being and Safety ส่งเสริมความปลอดภัยและความผาสุกของบุคลากร และ Public Trust and Health System Transparency เพิ่มความโปร่งใสของระบบบริการสุขภาพ และสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนผ่านข้อมูลคุณภาพ ความยั่งยืนของระบบสุขภาพจึงไม่ใช่เพียงการลงทุนด้านทรัพยากรหรือเทคโนโลยีเท่านั้น แต่คือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความไว้วางใจ และคุณภาพของบริการที่ประชาชนสัมผัสได้จริงในระบบบริการ” ดร.นพ.โสภณ กล่าว
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ นโยบาย One Region One Province One Hospital เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในเขตสุขภาพ และกระจายบริการไปยังโรงพยาบาลชุมชนมากขึ้น เช่น การเพิ่มศักยภาพห้องผ่าตัดและ ICU ในระดับอำเภอ นโยบาย “หมอไม่ลา ประชาชนไม่รอ” ด้วยระบบนัดหมายออนไลน์ผ่านแอปหมอพร้อม ลดความแออัด และเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน การส่งเสริม Telemedicine ให้ครอบคลุมทุก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ แต่ยังคงต้องรักษามาตรฐานและความปลอดภัยเทียบเท่าการพบแพทย์แบบเผชิญหน้าด้วย