สทนช. ชี้ระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาลดลงต่อเนื่อง เตรียมทยอยลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงวันละ 100 ลบ.ม.

 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช. เปิดเผยว่า สทนช. ร่วมกับกรมชลประทาน ติดตามและคาดการณ์สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำ 2,180 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที โดยระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.46 เมตร ส่วนบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา ที่สถานี C.13 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีระดับน้ำหน้าเขื่อน +16.70 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 2,020 ลบ.ม. ต่อวินาที ในขณะที่ด้านท้ายเขื่อนมีระดับน้ำ +14.74 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่ง 1.60 เมตร โดยระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ในส่วนของสถานการณ์ด้านท้ายเขื่อน ขณะนี้ระดับน้ำในหลายพื้นที่ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยที่สถานี C.3 อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี มีระดับน้ำ 11.48 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.92 เมตร สถานี C.7A อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง มีระดับน้ำ 8.30 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.70 เมตร อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณสถานี C.36 อำเภอบางบาล ยังมีระดับน้ำ 6.28 เมตร ซึ่งสูงกว่าตลิ่ง 1.92 เมตร และสถานี C.67 อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำ 5.34 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 2.59 เมตร

นายไพฑูรย์ ระบุว่า หน่วยงานกำลังเร่งบริหารจัดการอย่างเต็มที่เพื่อให้ระดับน้ำในทุกพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ โดยมีแผนทยอยลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา วันละ 100 ลบ.ม. ต่อวินาที คาดว่าในช่วงวันที่ 3 – 4 ธันวาคมนี้ จะสามารถลดการระบายน้ำให้เหลือในอัตรา 1,350 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งอัตราดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่คลองบางหลวง ชุมชนวัดอินทราราม ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในช่วงวันที่ 17 – 18 ธันวาคม 2568 คาดว่าจะลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เหลือในอัตรา 700 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมแม่น้ำน้อยบริเวณตำบลหัวเวียง ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา ตำบลท่าดินแดง ตำบลลาดชิด อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ สทนช. ขอยืนยันว่าทุกหน่วยงานจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายทั้งหมด