สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 พ.ย. 68 เวลา 7.00 น.

1. สภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน

คาดการณ์ : วันที่ 16 – 20 พ.ย. 68 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดกับมีลมกระโชกแรงขึ้นในระยะแรก และหลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงอีกกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 90% ของความจุเก็บกัก (72,112 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 83% (47,989 ล้าน ลบ.ม.)

3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (14 พ.ย. 68) นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและภัยแล้ง ณ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในช่วงเช้าเป็นการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองร้อยเอ็ด ระยะที่ 1 ณ ศาลากลางจังหวัด และพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหา ณ หอประชุมจังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นได้ลงพื้นที่ ณ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองร้อยเอ็ด ระยะที่ 1 เพื่อติดตามความก้าวหน้า พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชน ณ โรงเรียนขวาววิทยาคาร อำเภอเสลภูมิ

รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล ขณะนี้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมทั้งติดตามและประเมินความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ที่มีฝนตกน้อย เพื่อวางแผนใช้น้ำช่วงฤดูแล้งอย่างรอบคอบ ควบคู่ไปกับการเร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาในระยะยาวที่มีความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้พี่น้องประชาชนในการลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดครั้งนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านน้ำทุกหน่วยจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำของจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่น้ำท่วมและแล้งซ้ำซากเป็นไปอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยให้เสนอแผนดังกล่าวไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรวบรวม ก่อนพิจารณาให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ขับเคลื่อนแผนผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และนำไปปรับเพิ่มในแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 นอกจากนี้ ให้เร่งขยายกำลังผลิตระบบประปาพร้อมระบบนำน้ำดิบมาใช้ในพื้นที่ตำบลขอนแก่น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด รวมทั้งให้กรมชลประทานพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำยัง โดยเริ่มโครงการระยะเร่งด่วน เช่น โครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำฝายท่าลาด และฝายบ้านใหม่ชุมพร อำเภอเสลภูมิ และการจัดทำอาคารควบคุมน้ำที่เกี่ยวข้อง โดยขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำชี และ กนช. ต่อไป ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานต้องดำเนินงานโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ทุกโครงการต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม ช่วยลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้จริง และต้องรายงานผลต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน