รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย 2 โครงการผลักดัน “ยาดมสมุนไพรไทย” สู่ Soft Power ระดับโลก เร่งช่วยอุตสาหกรรม Medical and Wellness S-Curve ปรับปรุงโรงงานให้ได้ GMP และโครงการปัญญ์-พัฒน์ ช่วยพัฒนาศักยภาพ นวัตกรรม งานวิจัย จับคู่ธุรกิจ เน้นย้ำให้มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด เตรียมหารือร่วมผู้ประกอบการ 7 พ.ย.นี้
นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เดินหน้าแผนระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพรไทยสู่เวทีโลก หรือ Global Soft Power อย่างยั่งยืน ผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่ 1. ยกระดับอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพร สู่ Medical and Wellness S-Curve: มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมสนับสนุน SME ให้ปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน GMP เพื่อเข้าสู่ Medical and Wellness S-Curve และ 2. โครงการ “ปัญญ์ – พัฒน์” : มุ่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการในด้านมาตรฐาน, นวัตกรรม และการตลาดสู่สากล โดยสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา (R&D) การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) การลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการจัดตั้ง ศูนย์สารสนเทศอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
“ขณะนี้ได้แจ้งผู้ประกอบการทุกแห่งให้ยึดมั่นในมาตรฐานการผลิตระดับสากล (GMP) และปฏิบัติตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการควบคุม โลหะหนัก เชื้อจุลินทรีย์ และสารกำจัดศัตรูพืช ในทุกขั้นตอนการผลิต โดยยาดมที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องมีความปลอดภัยสูงสุด และขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากชัดเจนเพื่อความมั่นใจ” นายวรโชติกล่าว
นายวรโชติกล่าวต่อว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยังได้จัดประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพร “ยาสมุนไพร” เพื่อหาแนวทางการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพและความปลอดภัย ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 – 16.30 น. โดยมีการประชุมผ่าน Zoom และ Facebook Live ของกรมฯ ด้วย ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ตอบรับและจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมรวมแล้วถึง 327 คน โดยแบ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ 101 คน, หน่วยงานเอกชน 111 คน, สถาบันการศึกษา 48 คน, บุคคลทั่วไป 60 คน และวิสาหกิจชุมชน 7 คน ซึ่งแสดงถึงความตื่นตัวของทุกภาคส่วนต่อทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมยาดมสมุนไพรไทย

