
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. กระทรวงยุติธรรม โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาระบบงานสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานที่ควบคุม” ภายใต้ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569” ซึ่งได้รับเกียรติจาก พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “นโยบายและทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมในการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูกระทำผิด” โดยมี นางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพินิจฯ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีแพทย์หญิงทิพา ไกรลาศ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย บรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างกรมอนามัยและกรมพินิจและคุ้มเด็กและเยาวชน ในการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุม” โอกาสนี้ นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมพินิจฯ ฝ่ายบริหาร นางปรีดา วิสาโรจน์ ฝ่ายพัฒนา ผู้แทนจากกรมอนามัย นำโดยแพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย และคณะ และคุณวรวรรณ จั่นทิม กรรมการบริหารโครงการวิสาหกิจเพื่อสังคม (CHEF CARES) เข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรม ทีเค. พาเลช แอนด์ คอนเวนชั่นกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษว่า ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธี และมีโอกาสมาพบกับทุกท่านที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำผิด ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงยุติธรรมในการยกระดับระบบการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด โดยพัฒนาแนวทางการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเฉพาะด้านที่สอดรับกับสภาพปัญหาของผู้กระทำความผิดแต่ละกลุ่ม พร้อมสนับสนุนการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเพื่อให้ผู้กระทำผิดกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขและไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำ รวมถึงพัฒนาระบบงานยุติธรรมให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม มาตรฐาน และบรรทัดฐานของสหประชาชาติ ซึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม เป็นกลุ่มเป้าหมายที่กระทรวงยุติธรรมได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ หากพวกเขาได้รับโอกาสและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การยกระดับระบบการดูแลให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำ “แนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชน ในสถานที่ควบคุม” ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ผมและกระทรวงยุติธรรมพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนสำหรับการบูรณาการในการขับเคลื่อนการยกระดับระบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดและพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย

ด้านนางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวรายงานว่า กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนมีภารกิจสำคัญในการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู และปรับเปลี่ยนพัฒนาพฤตินิสัยของเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนยุติธรรม รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กและเยาวชนที่อยู่ในการดูแล ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 4,188 คน ได้รับการดูแลตามมาตรฐานอย่างเหมาะสม มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขณะอยู่ในสถานควบคุม และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้รับการป้องกัน แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู สามารถกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข จึงได้มีการบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมอนามัย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานตามแนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานควบคุม และมูลนิธิเชฟแคร์ ในการสนับสนุนการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรของกรมพินิจฯ ในด้านโภชนาการและการเป็นผู้สัมผัสอาหาร เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและสร้างสังคมสุขภาพดี
สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชน เป็นความร่วมมือระหว่างกรมพินิจฯ กับกรมอนามัย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานตามแนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุม และร่วมกับมูลนิธิเชฟแคร์ส ในการสนับสนุนการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรของกรมพินิจฯ ในด้านโภชนาและการเป็นผู้สัมผัสอาหารเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและสร้างสังคมสุขภาพดี รวมถึงให้ผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 200 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการส่วนกลาง ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมมีมาตรฐานและแนวทางการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมภารกิจและเป้าหมายของกรมพินิจฯ ในการดูแล แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู พัฒนาพฤตินิสัยเด็กและเยาวชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี และไม่กระทำความผิดซ้ำภายหลังที่ได้รับการปล่อยตัว











