รมว.พัฒนา” ย้ำสธ.- อย. คุมเข้มทุกผลิตภัณฑ์ ยา คุ้มครองผู้บริโภค ยึดหลัก“โปร่งใส ปลอดภัย ปราบปราม” พร้อมหนุนสมุนไพรสร้างมูลค่า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยัน การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของ อย. ยึดหลัก “โปร่งใส ปลอดภัย ปราบปราม” เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและมีจริยธรรม และทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีมาตรฐานระดับสากล สามารถส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศ

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการตรวจและประกาศผลวิเคราะห์ยาดมสมุนไพรที่พบการปนเปื้อนของเชื้อราและเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยมีการตรวจยาดมจำนวน 39 ชนิด ที่มีการจัดจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด พบว่ามียาดม 3 ชนิด มีการปนเปื้อนเชื้อราและเชื้อจุลินทรีย์ จึงได้ทำการตรวจสอบแหล่งผลิตตามที่เป็นข่าว ซึ่งขอยืนยันว่า เป็นการดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบของกระทรวง ที่ยึดในหลักการทำงานด้วยความ “โปร่งใส ปลอดภัย ปราบปราม” เพื่อสุขภาพคนไทย เป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยอย่างสูงสุด ทั้งนี้ ขอย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุข และ อย. ไม่เป็นเครื่องมือของผู้ใดในการทำลายคู่แข่งทางธุรกิจ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความโปร่งใส ยึดมั่นในความถูกต้องและเป็นไปตามหลักกฎหมาย เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย การออกตรวจสอบและจับกุมอยู่ภายใต้ข้อมูลเบาะแส โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันความเสียหายต่อสุขภาพของผู้บริโภค มิใช่การกลั่นแกล้งผู้ประกอบการ ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข และ อย. ยังคงสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและมีจริยธรรม พร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้มีมาตรฐานระดับสากล สามารถส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ

นายพัฒนากล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ขอยืนยันความตั้งใจที่จะให้โอกาสผู้ประกอบการที่ปฏิบัติและดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โดยการจัดให้มีหน่วยงานให้คำปรึกษา คำแนะนำ อบรมและช่วยพัฒนาผู้ประกอบการตั้งแต่เริ่มต้น พิจารณาออกแบบหรือแปลนของสถานที่ผลิต การขออนุญาตสถานที่ผลิต การพัฒนาสูตรตำรับและกระบวนการผลิต ไปจนถึงการขอขึ้นทะเบียนตำรับผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจวิเคราะห์ในเรื่องคุณภาพมาตรฐานแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงมาตรฐานและเข้าสู่ระบบได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงฯ ซึ่งจะดำเนินบนหลัก “ร่วมมือกันพัฒนา” โดยมีการหารือกับภาคเอกชนผู้ผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยที่เข้มแข็ง ปลอดภัย และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน โดยกระทรวงสาธารณสุขพร้อมเป็นพลังร่วมกับทุกฝ่ายในการยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคทุกคน

ด้าน เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวย้ำถึงความพร้อมของ อย. ในการให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การช่วยตรวจสอบ ไปจนถึงการอนุมัติแบบแปลนสถานที่ผลิตก่อนการก่อสร้าง เมื่อสถานที่ผลิตพร้อมและติดตั้งอุปกรณ์ครบถ้วนแล้ว ผู้ประกอบการควรรีบยื่นขอรับใบอนุญาตสถานที่ผลิต หลังจากได้ใบอนุญาตสถานที่ผลิตแล้วให้ยื่นคำขออนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรตัวอย่าง จากนั้นส่งผลิตภัณฑ์ฯ ตรวจวิเคราะห์ หากผลวิเคราะห์ผ่านตามเกณฑ์ให้ยื่นผลวิเคราะห์พร้อมเอกสารขอขึ้นทะเบียนตำรับผลิตภัณฑ์ ซึ่งข้อมูลพร้อมสามารถอนุมัติทะเบียนตำรับสมุนไพรสูตรเดิมที่เคยผลิตได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน และขอยืนยันว่า การดำเนินการทั้งหมดของ อย. เป็นไปเพื่อปกป้องผู้บริโภคให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย พร้อมทั้งส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นคง