
วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. คณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล ร่วมกับ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม คณะสงฆ์หนใต้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เเละสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา จัดโครงการถวายผ้ากฐินและผ้าป่าพัฒนาวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา จังหวัดสงขลา โดยมี พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนาพร้อมด้วย นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าภาพ เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างคณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล คณะสงฆ์หนใต้ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เละสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

ทั้งนี้ การถวายผ้ากฐินและผ้าป่าพัฒนาวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะนำไปถวายแด่วัดพุทธในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมจำนวน 312 วัด ซึ่งเป็นวัดที่ตกค้างกฐิน ไม่มีเจ้าภาพกฐิน หรือบางวัดจัดเป็นทอดผ้าป่าเพื่อทำนุบำรุงวัดและเป็นขวัญกำลังใจแก่พระสงฆ์ในพื้นที่ขาดแคลน โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดได้สำรวจรายชื่อวัดทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกาย ที่ประสงค์จะรับกฐินหรือผ้าป่าในปีนี้ เพื่อสนับสนุนการดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนาในพื้นที่

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีวัดและสำนักสงฆ์หลายแห่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย และมักมีกฐินตกค้างเนื่องจากไม่มีผู้รับเป็นเจ้าภาพ
กรมการศาสนา ซึ่งมีภารกิจในการทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะ ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับคณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล นำโดย พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล และ พระวิเทศวัชราจารย์ เลขานุการหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย–เนปาล เพื่อดำเนินโครงการถวายผ้ากฐินและผ้าป่าพัฒนาวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากการสำรวจ พบว่า วัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รับการถวายผ้ากฐินมีจำนวน 12 วัด และรับการถวายผ้าป่าจำนวน 300 วัด รวมทั้งสิ้น 312 วัด
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักธรรมและพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อันจะช่วยส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความเข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมพลังสามัคคีในการบำเพ็ญกุศล สืบสานพระพุทธศาสนา และอนุรักษ์ประเพณีการทอดผ้ากฐิน ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่สืบไป




















