1. สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 4 – 6 พ.ย. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง อากาศเย็นในตอนเช้าและยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 2 – 4 พ.ย. 68
คาดการณ์ปริมาณฝนสะสมมากกว่า 200 มม. จ.ลำปาง (อ.เถิน และแม่พริก) จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย ทุ่งเสลี่ยม บ้านด่านลานหอย ศรีนคร ศรีสัชนาลัย ศรีสำโรง และสวรรคโลก) จ.กำแพงเพชร (อ.เมืองกำแพงเพชร ขาณุวรลักษบุรี คลองขลุง และปางศิลาทอง) จ.ตาก (อ.เมืองตาก แม่ระมาด ท่าสองยาง บ้านตาก สามเงา และอุ้มผาง) จ.นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์) จ.สุพรรณบุรี (อ.สองพี่น้อง) จ.เพชรบุรี (อ.แก่งกระจาน และหนองหญ้าปล้อง) จ.กาญจนบุรี (อ.ไทรโยค และทองผาภูมิ) จ.นครปฐม (อ.บางเลน) และ จ.ราชบุรี (อ.โพธาราม
บ้านโป่ง บ้านคา ปากท่อ และสวนผึ้ง)
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 87% ของความจุเก็บกัก (70,394 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 80% (46,272 ล้าน ลบ.ม.)
3. สถานการณ์น้ำ :
จากการติดตามสถานการณ์ฝน พบว่าเกิดฝนตกหนักมากบริเวณลุ่นน้ำยมตอนล่าง ในพื้นที่ จ.ลำปาง อ.เถิน จ.สุโขทัย อ.ทุ่งเสลี่ยม ศรีสำโรง เมืองสุโขทัย กงไกรลาศ ศรีสัชนาลัย บ้านด่านลานหอย และสวรรคโลก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม มีปริมาณฝนตกสะสมถึง 337 มม. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชน เส้นทางคมนาคม และพื้นที่การเกษตร และจากการติดตามสถานการณ์น้ำ พบว่า
1. สถานี Y.26 ห้วยแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง (สถานีวัดน้ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำแม่มอก) ปัจจุบันปริมาณน้ำ 318.42 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำสูง 6.37 ม. สูงกว่าตลิ่ง 0.49 ม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
2. สถานี Y.33 บ้านคลองตาล อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีปริมาณน้ำสูงขึ้นเล็กน้อยจากปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ และไม่ได้รับความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งจากปริมาณน้ำของแม่น้ำยมตอนบน
3. สถานี Y.4 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย ปัจจุบันปริมาณน้ำ 176.80 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำสูง 4.91 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 3.24 ม. ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทาน (ชป.) ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 68 ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 นครสวรรค์ 2,439 ลบ.ม.ต่อวินาที สมทบกับปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำสะแกกรัง Ct.25 อุทัยธานี 198 ลบ.ม.ต่อวินาที ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ +16.81 ม.รทก.
ชป. ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในวันที่ 3 พ.ย. 68 โดยเริ่มเวลา 00.00 น. ทยอยจากอัตรา 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นอัตรา 2,100 ลบ.ม.ต่อวินาที เวลา 06.00 น. (ชั่วโมงละ 15 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยประมาณ) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
4. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทันท่วงที