“รมว.พัฒนา” ร่วมคณะนายกประชุมเวทีผู้นำเอเปคเกาหลี หารือแผนผลิตวัคซีนในประเทศ รองรับการระบาดในอนาคต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม National APEC Economic Leaders’s Week และหารือทวิภาคีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการเสริมความมั่นคงด้านวัคซีน รองรับการระบาดในอนาคต การบริหารจัดการทางการเงินด้านสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ การพัฒนานโยบายสุขภาพ ศักยภาพและกำลังคน การทำงานผ่านระบบ ICT และ การเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบวิจัยสาธารณสุข

นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมคณะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม National APEC Economic Leaders’s Week ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2568 ที่สาธารณรัฐเกาหลี พร้อมหารือทวิภาคีกับ SK bioscience เพื่อเสริมความมั่นคงด้านวัคซีน ลดการพึ่งพาต่างชาติ เพิ่มศักยภาพองค์การเภสัชกรรม รองรับการระบาดในอนาคต โดยรัฐบาลมีเป้าหมายในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของไทย ส่งเสริมการใช้วัคซีนที่ผลิตในประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์การพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของชาติ โดยเฉพาะการยกระดับศักยภาพโรงงานผลิตวัคซีนขององค์การเภสัชกรรมไทย เพื่อให้สามารถพัฒนาวัคซีนที่ผลิตได้ให้มีราคาเหมาะสมและประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้ รวมถึงการมีวัคซีนที่ครอบคลุม เพี่อเป็นการเตรียมความพร้อมและรองรับวิกฤตด้านสุขภาพ และถือว่าเป็นโอกาสหารือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีวัคซีนระหว่างทั้งสองฝ่าย

นายพัฒนากล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือทวิภาคีกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของสาธารณรัฐเกาหลี ประกอบด้วย Health Insurance Review and Assessment Service (HIRA) และ National Evidence-based Healthcare Collaborating Agency (NECA) ที่มีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและประเมินระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการบริหารจัดการทางการเงินด้านสุขภาพภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบและการปรับปรุงระบบการจ่ายเงินแก่ผู้ให้บริการทางการแพทย์ การกำหนดขอบเขตและมาตรฐานของบริการที่ครอบคลุมภายใต้ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อควบคุมต้นทุนและประเมินความเหมาะสมของค่าบริการทางการแพทย์ รวมไปถึงแนวทางการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพใหม่ ๆ (New Health Technology Assessment) อาทิ การดำเนินการผ่านระบบตรวจสอบแบบ Early access และ ระบบ monitoring safety system และการดำเนินการวิจัยที่สอดคล้องกับกฎระเบียบด้านสุขภาพ อีกทั้งมีการหารือเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนานโยบายสุขภาพ การพัฒนาศักยภาพและกำลังคนด้านสุขภาพ และการทำงานผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมทั้งการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบวิจัยสาธารณสุขด้านนโยบายแบบมีหลักฐานยืนยัน (Evidence-based policy) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น