สคทช. จับมือ depa ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคการเกษตรในพื้นที่ คทช. มุ่งยกระดับเกษตรกไทยสู่ “เกษตรอัจฉริยะ ” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสร้างรายได้อย่างยั่นยืน

วันที่ 22 ตุลาคม 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วยการส่งเสริม สนับสนุน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตร ร่วมกับ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันดําเนินงานส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้านการเกษตร โดยพัฒนาทักษะให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มชุมชน วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ คทช. รวมถึงเพื่อการศึกษา วิจัย และพัฒนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล การเข้าถึงตรวจสอบสิทธิพื้นที่การเพาะปลูกและการรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของเกษตรกรในพื้นที่ คทช. โดยมี นายสกุลยุช ศรุตานนท์ ผู้ช่วย ผอ.สคทช. พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สคทช. และเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมพิธีฯ ณ ห้องประชุม 108 ชั้น 1 อาคาร A สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สำนักงานใหญ่)

ดร.รวีวรรณ ผอ.สคทช กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำพันธกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และชุมชนในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกิน (คทช.) มีทักษะและความรู้ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อวางแผนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการขนส่งอย่างเป็นระบบ รวมถึงการใช้ระบบ Agriculture as a Service (AaaS) เพื่อติดตามผลผลิตตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงการวิจัยและพัฒนา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างหน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลที่ดิน การตรวจสอบสิทธิพื้นที่เพาะปลูก และการรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์จากที่ดินในพื้นที่ คทช. อย่างถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ อันจะนำไปสู่การยกระดับภาคการเกษตรไทยสู่ “Smart Farming” หรือเกษตรอัจฉริยะ โดยจะเริ่มนำร่องกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ก่อนขยายผลไปยังสินค้าเกษตรประเภทอื่น โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ EUDR เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรไทยในระดับนานาชาติ

“สคทช. จะนำผลจากความร่วมมือนี้ไปเชื่อมโยงกับโครงการรับรองสินค้าภายใต้ตราสัญลักษณ์ “ผลิตภัณฑ์จากชุมชน คทช.” เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรที่สะท้อนถึงคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาจากพื้นที่ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมายของรัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับพี่น้องชุมชน คทช. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ และสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างมั่นคง” ผอ.สคทช. กล่าวย้ำ

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวมีกรอบระยะเวลา 5 ปี มุ่งเน้นการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ การวิจัยและพัฒนา การแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยตามข้อตกลงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Sharing and Processing Agreement) รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Big Data ในภาคเกษตร เพื่อให้การจัดการน้ำ การเพาะปลูก และการกระจายผลผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ความร่วมมือระหว่าง สคทช. และ depa ในครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ภาคเกษตรกรรมไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เสริมสร้างความมั่นคงด้านที่ดินและอาชีพ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ มุ่งสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่นยืน