กรมปศุสัตว์ ขานรับนโยบาย รมว.กษ. เดินหน้าเร่งขับเคลื่อนโครงการอาหารสัตว์ธงเขียว มุ่งลดต้นทุนอาหารสัตว์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายให้กรมปศุสัตว์เร่งดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ที่มุ่งเน้นลดภาระต้นทุนการผลิตด้านอาหารสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการอาหารสัตว์ธงเขียว” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงสัตว์และยกระดับคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ของประเทศ เดินหน้าบูรณาการร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมให้การสนับสนุนสหกรณ์ด้านปศุสัตว์ทั่วประเทศ ให้สามารถผลิตอาหารสัตว์ ทั้งอาหารข้น และอาหารหยาบ ได้ด้วยตนเอง และจำหน่ายให้กับสมาชิกฯ ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด สร้างรายได้ที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่งเน้นการลดต้นทุนอาหารสัตว์ในทุกมิติ ทั้งด้านอาหารหยาบและอาหารข้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ผ่านการดำเนินการภายใต้ 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการอาหารสัตว์ TMR (Total Mixed Ration) ส่งเสริมการผลิตอาหารผสมสำเร็จรูปสำหรับโคเนื้อและโคนม โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น กากปาล์มน้ำมัน ใบกระถินแห้ง ใบมันสำปะหลังหมัก กากเบียร์ กากมัน กากมะเขือเทศ และเปลือกสับปะรด มาจัดสัดส่วนตามชนิดและระยะการให้ผลผลิตของสัตว์ เป็นการให้อาหารแบบแม่นยำ ช่วยลดต้นทุนได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้จัดตั้ง หน่วยจัดการอาหารสัตว์เคลื่อนที่ (Feed Management Mobile Unit : FMMU) ให้บริการคำแนะนำการใช้วัสดุเหลือใช้ในพื้นที่ พร้อมวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนะผ่านห้องปฏิบัติการมาตรฐาน ก่อนนำไปประกอบเป็นอาหารสัตว์ ทั้งนี้ ในปี 2569 กรมปศุสัตว์ตั้งเป้าผลิต TMR ราคาประหยัด จำนวน 670,000 กิโลกรัม เพื่อให้บริการเกษตรกรทั่วประเทศ 2. โครงการสูตรลดต้นทุนอาหารข้นสำหรับสุกร ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยผลิตอาหารข้นใช้เองในฟาร์ม โดยนักวิชาการจาก FMMU จะให้คำแนะนำสูตรอาหารและแหล่งวัตถุดิบ เช่น รำข้าว ข้าวโพด กากถั่วเหลือง พรีมิกซ์ เกลือ และไดแคลเซียม โดยคำนวณสัดส่วนที่เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เฉลี่ย 20% ขณะเดียวกันยังคงคุณภาพเนื้อสัตว์ไว้ในระดับดี เกษตรกรพึงพอใจอย่างมาก 3. โครงการขยายแปลงปลูกพืชอาหารสัตว์เพิ่ม 50,000 ไร่ ทั่วประเทศ สนับสนุนการปลูกหญ้าเนเปียร์ ถั่วฮามาต้า และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงฟื้นฟูแปลงเดิม โดยกรมฯ สนับสนุน เมล็ดพันธุ์หญ้า 100,000 กิโลกรัม และท่อนพันธุ์ 3.5 ล้านกิโลกรัม ทั้งนี้ปีที่ผ่านมามีแปลงปลูกพืชอาหารสัตว์ที่กรมปศุสัตว์ส่งเสริมดูแลอยู่แล้ว 500,000 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรมีพืชอาหารสัตว์คุณภาพดีไว้ใช้ในฟาร์ม ลดการพึ่งพาตลาดและเสริมความมั่นคงด้านอาหารสัตว์ในพื้นที่

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การขับเคลื่อนโครงการอาหารสัตว์ธงเขียว เป็นมาตรการสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “3 สร้าง” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ สร้างรายได้ – สร้างตลาด – สร้างโอกาส ให้เกษตรกรไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ไทยให้มีศักยภาพแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ หากเกษตรกรทั้งในฐานะผู้ผลิตหรือผู้เลี้ยงสัตว์สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่งทั่วประเทศ หรือสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ โทร 0 2501 1148 หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน