“วรโชติ” นำทีมตรวจเข้มสถานบริการเอกชนให้บริการ “ตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว – ฟอกไต” ตามนโยบายรัฐบาล

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว และบริการฟอกไต ของสถานบริการภาคเอกชน ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข โดยโรงพยาบาลเอกชน ย่านภาษีเจริญ ที่ให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว พบมีการขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางานและขออนุญาตให้บริการกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพถูกต้อง มีมาตรฐานตามประกาศกำหนด ขณะที่สถานพยาบาลเอกชน 1 แห่ง ใน จ.ปทุมธานี ที่ให้บริการฟอกไตในระบบบัตรทอง ดำเนินการถูกต้องเช่นกัน

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบและมีหลักประกันสุขภาพ เพื่อลดภาระค่ารักษาพยาบาลของประเทศ และการเพิ่มการเข้าถึงบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นประเด็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในวันนี้ (16 ตุลาคม 2568) ตนพร้อมด้วย นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงลงพื้นที่ติดตามการให้บริการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวของโรงพยาบาลทั่วไปขนาดใหญ่แห่งหนึ่งย่านภาษีเจริญ กทม. ที่ก่อนหน้าได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลเอกชนที่จะตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ตามประกาศกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน แล้ว แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตให้บริการเพิ่มเติมในการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว กับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (ให้ขออนุญาตตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567) ทำให้ถูกสั่งระงับการให้บริการไปจนกว่าจะดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยพบว่า ขณะนี้โรงพยาบาลฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มีการให้บริการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามหลักวิชาชีพและมีการออกใบรับรองแพทย์ให้กับผู้ที่มารับบริการตรวจสุขภาพจริงเท่านั้น

นายวรโชติกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้นำคณะลงติดตามการให้บริการตามนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ ฟอกไตฟรีทุกแห่ง” โดยมี นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมด้วย ที่โรงพยาบาลกรุงไทย ปทุม จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายจะเข้าถึงบริการฟอกที่มีมาตรฐานและปลอดภัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สถานพยาบาลเอกชนที่ประสงค์จะให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ต้องขออนุญาตให้บริการเพิ่มเติมจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพก่อน และต้องจัดบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล และหากมีการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ห้ามเรียกเก็บค่าบริการจากผู้รับบริการในระบบบัตรทองเพิ่มเติมเด็ดขาด หากตรวจพบจะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที