วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมประชุมเจ้าหน้าที่สำนักงานแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี และบัณฑิตแรงงาน เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านแรงงานบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา และการเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่ โดยมี นางวีรยา รัตนนิตย์ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน จ่าเอก ประยงค์ บุญช่วย ผู้ตรวจราชการกรม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมประชุมด้วย ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 7 อุบลราชธานี
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สถานการณ์ด้านแรงงานในพื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ที่มีการประกอบกิจการจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งแรงงานไทย และแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงาน จึงได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์แรงงานอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิแรงงานและการค้ามนุษย์ในทุกรูปแบบ ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้การคุ้มครองแรงงานเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ความรู้แก่แรงงานเกี่ยวกับสิทธิการทำงาน การคุ้มครองตามกฎหมาย และแนวทางการขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้องตามระบบ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำว่า การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อยกระดับมาตรการคุ้มครองแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติให้มีความปลอดภัย และได้รับการจ้างงานอย่างเป็นธรรม ซึ่งการติดตามตรวจสอบแรงงานในพื้นที่ชายแดนเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงแรงงาน ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งสร้างความมั่นคงในการทำงาน ควบคู่กับการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อให้แรงงานทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม และเข้าถึงสวัสดิการแรงงานได้อย่างทั่วถึง
ด้าน นายสิบหมื่นชัย โพธิสินธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะแรงงานในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการค้ามนุษย์และการละเมิดสิทธิแรงงาน จึงได้สั่งการให้สำนักงานแรงงานจังหวัด และหน่วยงานในสังกัดเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้เร่งสร้างความเข้าใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ส่งเสริมให้แรงงานได้รับการจ้างงานอย่างเป็นธรรม มีความปลอดภัยในการทำงาน และสามารถเข้าถึงระบบสวัสดิการแรงงานได้อย่างทั่วถึง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในพื้นที่ชายแดนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป