“รมว.พัฒนา” ร่วมเวที WHO SEARO Regional Committee ครั้งที่ 78 จับมือสร้างสุขภาวะผู้สูงวัยด้วยบริการสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารร่วมประชุมคณะกรรมการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 78 ที่ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา จับมือประเทศสมาชิกร่วมปฏิญญาว่าด้วยการสร้างเสริมสุขภาวะผู้สูงวัยทั้งการวางนโยบายระดับชาติ การดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ การจัดบริการที่ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ ใช้สุขภาพดิจิทัลและนวัตกรรมเพิ่มการเข้าถึงและเพิ่มประสิทธิภาพการดูแล พร้อมแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีภายในและนอกภูมิภาค

วันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ กรุงโคลัมโบ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้นำทีมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 78 (78th WHO SEARO Regional Committee : RC78) ร่วมกับอีก 9 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน เกาหลีเหนือ อินเดีย มัลดีฟส์ เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และติมอร์เลสเต โดยมีประเทศศรีลังกา เป็นเจ้าภาพ ซึ่งที่ประชุมได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรอย่างรวดเร็วของภูมิภาค ที่คาดว่า ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.3 ในปี 2024 เป็นร้อยละ 20.9 ในปี 2050 หรือเกือบ 2 เท่า และจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพและสุขภาวะที่ซับซ้อนและเกี่ยวเนื่องกัน ทั้งนี้ การจะบรรลุภาวะสูงวัยสุขภาพดี ต้องทำให้ผู้สูงวัยตระหนักถึงสิทธิและการเป็นสมาชิกที่มีคุณค่าของสังคม รวมทั้งเพิ่มสมรรถภาพภายในและความสามารถในการทำงานตลอดช่วงชีวิต ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมืออย่างแข็งขันของหลากหลายภาคส่วน ที่ประชุมจึงมีปฏิญญาร่วมกัน 10 ประเด็น ได้แก่

1.สร้างเสริมสุขภาวะผู้สูงวัยในนโยบายระดับชาติและระบบสุขภาพที่เน้นสุขภาพปฐมภูมิ ให้บริการที่เข้าถึงได้ เป็นธรรม บูรณาการและตอบสนองทุกช่วงการดูแล ตั้งแต่ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จนถึงฟื้นฟูสมรรถภาพ ดูแลระยะยาว และดูแลแบบประคับประคอง 2.จัดการอคติด้านอายุ ผ่านกฎหมาย/นโยบายที่ครอบคลุม รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ พร้อมทั้งส่งเสริมความเคารพศักดิ์ศรีและความสามัคคีระหว่างรุ่น 3.สร้างความเป็นผู้นำของภาคสุขภาพในการประสานระหว่างภาคส่วน โดยเฉพาะกับภาคสังคม การเงิน ที่อยู่อาศัย การขนส่ง การศึกษา และแรงงาน ผ่านกลไกการประสานงานเฉพาะและการจัดทำโครงการที่สอดคล้องกัน 4.ให้ความสำคัญและจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอสำหรับนโยบายและโครงการที่มุ่งเป้าผู้สูงอายุ โดยสำรวจแนวทางการเงินใหม่ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน และกลไกการแบ่งปันต้นทุนระหว่างกระทรวง เพื่อสนับสนุนการคุ้มครองทางการเงินและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 5.ให้บริการแบบบูรณาการ เคารพสิทธิ ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง คำนึงถึงเพศภาวะสำหรับผู้สูงอายุ ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการ ความชอบ และทางเลือกที่ได้รับการประเมิน โดยการเสริมสร้างระบบปฐมภูมิให้เป็นจุดเริ่มต้นของการดูแล ขยายบริการในชุมชน และประสานงานด้านสุขภาพ สุขภาวะ และการดูแลทางสังคม รวมถึงการดูแลระยะยาว โดยไม่ก่อให้เกิดภาระทางการเงิน

6.เสริมสร้างบุคลากรด้านสุขภาพและการดูแล โดยพัฒนาทักษะด้านผู้สูงอายุและความอ่อนไหวทางเพศ สนับสนุนผู้ดูแลทั้งที่ได้รับค่าตอบแทนและไม่ได้รับค่าตอบแทน และส่งเสริมทีมสหสาขาวิชาชีพในชุมชน เพื่อให้บริการสุขภาพและการดูแลที่มีคุณภาพแก่ผู้สูงอายุในทุกช่วงวัย 7.เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบข้อมูล เพื่อเก็บและใช้ข้อมูลที่แยกตามอายุ เพศ และความพิการเกี่ยวกับสมรรถภาพภายใน ความสามารถในการทำงาน และการเข้าถึงบริการสุขภาพและการดูแลที่มีคุณภาพ เพื่อใช้กำหนดนโยบายและโครงการที่มีหลักฐานสนับสนุน 8.สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุอย่างครอบคลุม ผ่านความร่วมมือหลายภาคส่วนด้านที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย การขนส่งที่เข้าถึงได้ การคุ้มครองทางสังคม และโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนที่ครอบคลุม 9.ใช้ประโยชน์จากสุขภาพดิจิทัลและนวัตกรรม เพื่อปรับปรุงการเข้าถึง ประสิทธิภาพ และคุณภาพของการดูแล โดยประกันการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับผู้สูงอายุ และ 10.ส่งเสริมการวิจัยและแลกเปลี่ยนความรู้ เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาวะผู้สูงวัย สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและรูปแบบการให้บริการที่มีประสิทธิผล โดยแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีภายในและนอกภูมิภาค และขอให้องค์การอนามัยโลก หน่วยงานพหุภาคี รวมถึงธนาคารเพื่อการพัฒนาและพันธมิตร ระดมการสนับสนุนทางเทคนิค นโยบาย และการเงิน เพื่อขับเคลื่อนวาระการสร้างเสริมสุขภาวะผู้สูงวัยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ภูมิภาคว่าด้วยภาวะสูงวัยสุขภาพดี (2024–2030) และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐสมาชิก