อย. แจงเพิ่มบทบาทร้านยาในโครงการสุขกาย สบายกระเป๋า ช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ

จากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน (กระทรวงพาณิชย์) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน หาแนวทางช่วยเหลือประชาชนในเรื่องค่าครองชีพ ภายใต้โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาในโรงพยาบาลเอกชน โดยให้ผู้ป่วยสามารถขอใบสั่งยาจากแพทย์ เพื่อนำไปซื้อจากร้านยาภายนอก ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ร้านยาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาตม 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องนี้มากขึ้น อย. จึงมีรายละเอียดเพิ่มเติมในคำถามคำตอบ ชุดที่ 2 ดังนี้

Q 7 : คุณสมบัติของร้านยาที่สามารถลงทะเบียนฯ มีอะไรบ้าง
A 7 : ต้องเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ไม่อยู่ในระหว่างที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยต้องยืนยันความพร้อมในระบบลงทะเบียนฯ ดังนี้
• มีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ
• มีช่องทางการติดต่อ สอบถาม สำหรับผู้มารับบริการ เพื่อตรวจสอบยืนยัน รายการ จำนวน และราคายาได้ เช่น โทรศัพท์ , ID LINE , โปรแกรมประยุกต์ Telepharmacy
• พร้อมในการจัดหายาให้ครบถ้วนตามใบสั่งยาภายใน 24 ชั่วโมง หรือตามที่ผู้ป่วยให้ความเห็นชอบ
• พร้อมจัดบริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมที่กำหนด
• พร้อมติดต่อประสานงานโรงพยาบาลผู้ออกใบสั่งยาได้ตลอดเวลาให้บริการ หรือกรณีที่มีเหตุจำเป็น

Q 8 : ร้านยาที่สมัครใจลงทะเบียน จำเป็นต้องเป็นร้านยาคุณภาพหรือเป็นสมาชิกของสมาคมวิชาชีพหรือไม่
A 8 : ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านยาคุณภาพ หรือเป็นสมาชิกของสมาคม/ชมรม ที่เกี่ยวกับร้านยาใด ๆ ขอเพียงเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) ไม่อยู่ในระหว่างที่ถูกพักใช้ใบอนุญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ และยืนยันในความพร้อม

Q 9 : หลังจาก ลงทะเบียนแล้ว จะเกิดประโยชน์อะไร
A 9 : อย. จะพัฒนาระบบการค้นหาและแสดงตำแหน่งร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยที่ประสงค์จะนำใบสั่งยาออกจากโรงพยาบาลมารับยาที่ร้าน โดยจะแสดงข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทร ID LINE หรือแพลตฟอร์ม Telepharmacy เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถติดต่อสอบถามก่อนล่วงหน้าได้
ประโยชน์กับผู้ป่วย : มั่นใจว่าไปร้านยาแล้ว มีความพร้อมในการบริการจ่ายยาตามใบสั่ง ไม่เสี่ยง เสียเที่ยว เสียเวลาเดินหา
ประโยชน์กับร้านยา : ได้รับการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ประชาชน

Q 10 : มีแนวปฏิบัติหรือคำแนะนำเฉพาะสำหรับการให้บริการจ่ายยาตามใบสั่งยาฯ อย่างไร
A 10 : นอกจากที่ร้านยาจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ และ GPP แล้ว ในกรณีจ่ายยาตามใบสั่งฯ มีคำแนะนำเฉพาะ ดังนี้
1. หลังจากให้บริการ เภสัชกรต้องเก็บใบสั่งยาและลงบัญชี ขย 12 เว้นแต่กรณีที่ผู้ป่วยมีความประสงค์จะขอเก็บใบสั่งยาไว้ ให้เภสัชกรบันทึกจำนวนและวันที่จ่ายลงในใบสั่งยาทุกครั้ง ก่อนที่จะสำเนาเก็บไว้หนึ่งฉบับ และส่งคืนเอกสารจริงให้ผู้ป่วย
2. ร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ข.ย.1) โดยทั่วไป สามารถให้บริการรับใบสั่งยาและจ่ายยาตามใบสั่งยาได้ แต่กรณีที่มีการให้บริการ Telepharmacy เพื่ออำนวยความสะดวก จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ อย. และสภาเภสัชกรรม
3. กรณีการเปลี่ยนชื่อการค้าของยา ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไข ความสมัครใจ/ยินยอมของผู้รับบริการ และไม่ส่งผลต่อประสิทธิผลของการรักษา โดยผ่านการให้ข้อมูลของเภสัชกรเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้รับบริการ
4. กรณีพบปัญหาการใช้ยา (DRP) ติดต่อประสานกับโรงพยาบาล เพื่อทบทวนใบสั่งยา / ใบแจ้งรายการยา อย่างไรก็ดี หากเภสัชกรร้านยามีความเห็นไม่สอดคล้องกับใบสั่งยา/ใบแจ้งรายการยา เป็นสิทธิ์ของเภสัชกรในการส่งคืนใบสั่งยา ไม่ส่งมอบยา โดยยึดความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ