พัฒนา-วรโชติ ลงพื้นที่ บุรีรัมย์ – สุรินทร์ ติดตามความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

2 รัฐมนตรีสาธารณสุข ลงพื้นที่ จังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์ ติดตามความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรับสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา เผย เหตุสู้รบช่วงที่ผ่านมา สถานบริการสาธารณสุขได้รับความเสียหายกว่า 148.3 ล้านบาท ปัจจุบันสถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ ติดตามเฝ้าระวัง 3 จังหวัด อยู่ในภาวะฉุกเฉินระดับ 1 ตื่นตัว 5 จังหวัด โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงมีแผนรับมือภาวะฉุกเฉิน ทั้งการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ดูแลสุขภาพประชาชนในศูนย์พักพิง ป้องกันควบคุมโรค สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ภาพรวมเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวใน 7 จังหวัด ไว้ 683 แห่ง รองรับได้ 405,722 คน เปิดแล้วที่อุบลราชธานี 2 แห่ง สุรินทร์ 5 แห่ง มีผู้เข้าพักประมาณ 800 คน

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่โรงพยาบาลบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยนายพัฒนา กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงกว่า 1.4 ล้านคนเป็นอย่างมาก ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 20 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 149 แห่ง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ่งก่อสร้างและวัสดุ 148.3 ล้านบาท สำหรับการช่วยเหลือประชาชน ได้จัดทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข ทีมสุขภาพจิต ทีมควบคุมโรค และทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม รวม 198 ทีม หมุนเวียนดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงอย่างต่อเนื่อง และยังเตรียมทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขจิตอาสาไว้อีก 1,987 คน พร้อมลงพื้นที่ทันทีหากได้รับการร้องขอ

นายพัฒนากล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อยู่ในภาวะฉุกเฉินระดับ 1 ตื่นตัว (Alert Mode) ส่วนตราด จันทบุรี สระแก้ว อยู่ในภาวะปกติ ติดตามเฝ้าระวัง (Watch Mode) การลงพื้นที่ 2 แห่งในวันนี้ นอกจากติดตามการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมันให้กับประชาชนด้วย โดยหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้จัดทำแผนรองรับการจัดการภาวะฉุกเฉินไว้แล้ว ทั้งระบบการจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกัน การบริหารจัดการศูนย์อพยพ อาทิ การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต การป้องกันควบคุมโรค สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ภาพรวมมีการเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวใน 7 จังหวัดไว้ 683 แห่ง รองรับได้ 405,722 คน ขณะนี้เปิดศูนย์ฯ แล้ว 7 แห่ง ที่อุบลราชธานี 2 แห่ง สุรินทร์ 5 แห่ง มีผู้เข้าพักประมาณ 800 คน

ด้านนายวรโชติ กล่าวว่า โรงพยาบาลบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยได้รับผลกระทบ มีการเตรียมพร้อมรับมือตามแผนที่วางไว้ ทั้งการอพยพผู้ป่วย กลุ่มสีแดง สีเหลือง สีเขียว การเตรียมศูนย์พักพิง 2 แห่ง ที่สนาม BRIC รองรับคนได้ประมาณ 80,000 ราย และที่ศูนย์ฟื้นฟู รองรับคนได้ประมาณ 1,500 ราย รวมทั้งเตรียมทีมปฏิบัติการภาคสนาม สำรองยา/เวชภัณฑ์/กำลังคน ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์ ได้เตรียมพร้อมรองรับภัยจากการสู้รบไว้เช่นกัน มีการวางระบบลงทะเบียนศูนย์พักพิง เชื่อมโยงข้อมูลด้านการรักษา ติดตามข้อมูลแบบ Realtime และจัดทำ REMOTE CLOUD BACKUP เพื่อสำรองข้อมูลสุขภาพของโรงพยาบาล 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักฯ โรงพยาบาลกาบเชิง โรงพยาบาลสังขะ โรงพยาบาลบัวเชด และโรงพยาบาลปราสาท รวมถึงเตรียมพร้อมเรื่องความปลอดภัย โดยปรับปรุงและก่อสร้าง Bunker เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน จากกรมควบคุมโรค และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 เพื่อใช้ในภารกิจป้องกันควบคุมโรคด้วย