นางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแรงงานภาคอิสระที่ประกอบอาชีพพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ รับจ้าง ช่างเสริมสวย เกษตรกร ฟรีแลนซ์ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และอาชีพอิสระอื่นๆ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้า สำนักงานประกันสังคมมุ่งเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย โดยกำหนดเป้าหมายขยายหลักประกันทางสังคมให้ครอบคุลมแรงงานภาคอิสระทุกกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่มีความมั่งคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 อย่างต่อเนื่อง จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 มีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 11,018,243 ราย
สำนักงานประกันสังคม ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมี “หลักประกันทางสังคม”โดยเปิดโอกาสให้แรงงาน ภาคอิสระที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจนถึง 65 ปีบริบูรณ์ สมัครเข้าสู่ระบบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สมัครรับความคุ้มครอง 5 กรณี ได้แก่ ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร แม้จะไม่คุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วย แต่ยังสามารถรับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน อย่างไรก็ดี แรงงานภาคอิสระสามารถสมัครรับความคุ้มครอง หรือเลือกจ่ายเงินสมทบตามความเหมาะสมกับตนเองได้ถึง 3 ทางเลือก โดยทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบเดือนละ 70 บาท ได้รับความคุ้มครอง 3 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยรับเงินทดแทนการขาดรายได้ ทุพพลภาพ ตาย ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบ เดือนละ 100 บาท ได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี โดยเพิ่มกรณีชราภาพ ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท ได้รับความคุ้มครอง 5 กรณี โดยเพิ่มกรณีสงเคราะห์บุตร
นางสาวบุปผา เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า การสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ก็ไม่ได้ยุ่งยากสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงมีอายุ 15-65 ปี มีสัญชาติไทย หรือหากไม่มีสัญชาติไทย ต้องมีบัตรประจำตัว ผู้ไม่มีสัญชาติไทย เลขหลักแรกต้องเป็น 0,6,7 ยกเว้นเลขหลักแรกเป็น 0 และหลักที่สองเป็น 0 ไม่สามารถสมัครได้ จะต้องไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือมาตรา 39 ไม่เป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ สำหรับผู้พิการก็สามารถสมัครได้ ยกเว้น ผู้พิการทางสติปัญญาที่ไม่สามารถรับรู้สิทธิของตนเอง ช่องทางการสมัครก็มีหลากหลาย โดยสมัครได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา,เคาน์เตอร์เซอร์วิส,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.),แอปพลิเคชั่นทางรัฐ,แอปพลิเคชั่น SSO+,แอปพลิเคชั่น LINE (@ssothai),เว็บไซต์ประกันสังคม (www.sso.go.th),สมัครด้วยตนเองผ่านระบบ e-Self Service,เครือข่ายประกันสังคม,สายด่วนประกันสังคม โทร.1506 และที่เว็บไซต์กระทรวงแรงงาน (www.mol.go.th) ขณะที่ช่องทางการจ่ายเงินสมทบก็สะดวกสบายหลายช่องทาง สามารถหักผ่านบัญชีธนาคาร 8 แห่ง จ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและหน่วยบริการหรือชำระผ่านโมบายแอปพลิเคชันที่ร่วมโครงการกับสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งสามารถชำระผ่าน QR Code ในระบบ e-Self Service และชำระที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา สำหรับช่องทางการยื่นขอรับเงินประโยชน์ทดแทนประกันสังคมมาตรา 40 ผู้ประกันตนสามารถยื่นผ่านช่องทางออนไลน์โดยเข้าสู่ระบบ e-Self Service บนเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม (www.sso.go.th) หรือยื่นเอกสารด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ รวมถึงการส่งทางไปรษณีย์ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวย้ำว่า “การมีหลักประกันทางสังคมจะช่วยให้แรงงานภาคอิสระมีความมั่งคงในชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดผันใดๆ ก็ยังได้รับการดูแลจากสำนักงานประกันสังคมที่พร้อมให้การสนับสนุนให้แรงงานทุกกลุ่มเข้าถึงระบบประกันสังคมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง”