1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.พิษณุโลก (115) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.สุรินทร์ (75) ภาคตะวันตก : จ.เพชรบุรี (28) ภาคกลาง : จ.สิงห์บุรี (48) ภาคตะวันออก : จ.ปราจีนบุรี (164) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (126)
สภาพอากาศวันนี้ : ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน”ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนัก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 1 – 4 ต.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมมีกำลังอ่อนลง และจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มกำลังอ่อนลง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 80% ของความจุเก็บกัก (64,696 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 70% (40,575 ล้าน ลบ.ม.)
3. ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 22 – 26 ก.ย. 68 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่วมไทย พร้อมด้วยคณะฯ เดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมสาขาความร่วมมือทรัพยากรน้ำภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง สมัยสามัญ ครั้งที่ 6 และการประชุมเวทีหารือด้านทรัพยากรน้ำแม่โขง – ล้านช้าง ครั้งที่ 4 ณ เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน สรุปสาระสำคัญของการประชุม ดังนี้
1) การประชุมคณะทำงานร่วมฯ”ที่ประชุมได้หารือประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเอกสารข้อแนะนำร่วม อันเป็นผลลัพธ์ของการประชุมเวทีหารือฯ โดยร่างดังกล่าวได้เน้นย้ำการเสริมสร้างความพร้อมรับมือภัยพิบัติด้านน้ำ การพัฒนาระบบเตือนภัยและการพยากรณ์ที่มีประสิทธิภาพ การยกระดับขีดความสามารถในการรับมือสภาพอากาศสุดขั้ว และการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แก่ประชาชนเกี่ยวกับอุทกภัยและภัยแล้ง
2) ภายหลังการประชุมคณะทำงานร่วมฯ เลขาธิการ สทนช. ได้ประชุมหารือทวิภาคีกับหัวหน้าคณะทำงานร่วมเมียนมา เกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้างการปรับตัวของชุมชนเมืองต่อภาวะอุทกภัยภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเหตุการณ์สุดขั้วในลุ่มน้ำสาย-รวก ภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง – ล้านช้าง ที่มุ่งเน้นการติดตั้งสถานีโทรมาตรเพื่อการเตือนภัยในแม่น้ำรวก-สาย ตลอดจนหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมาเพื่อร่วมกันจัดทำข้อเสนอโครงการในการบรรเทาและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงรวมถึงประเด็นปัญหาคุณภาพน้ำต่อไป
3) การประชุมเวทีหารือด้านทรัพยากรน้ำแม่โขง–ล้านช้าง ครั้งที่ 4 เลขาธิการ สทนช. ได้ร่วมกล่าวปาฐกถาในพิธีเปิด เน้นย้ำแนวทางความร่วมมือ 4 ด้าน ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยาเพื่อการวางแผนและรับมืออุทกภัย การดำเนินการร่วมเพื่อติดตามและประเมินผลคุณภาพน้ำ เพื่อป้องกัน ลด และบรรเทาผลกระทบข้ามพรมแดน การส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการสร้างความร่วมมือที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ครอบคลุมทุกภาคส่วนและกลุ่มประชากร เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำและความสามารถในการปรับตัวของชุมชนในภูมิภาค
4) คณะผู้แทน สทนช. ได้ประชุมหารือทวิภาคีกับศาสตราจารย์ฟิลิป เกอร์เบอส์วิล และผู้แทนจากสถาบันวิจัยทรัพยากรน้ำและพลังงานน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (IWHR) เพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อนความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจ MOU ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่าง สทนช. และ IWHR ต่อไป
4. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 28 ก.ย. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 15 จ. 59 อ. ได้แก่ จ.พิษณุโลก (อ.วังทอง และบางระกำ) จ.พิจิตร (อ.สามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง บางมูลนาก ทับคล้อ เมืองฯ ดงเจริญ และสากเหล็ก) จ.เพชรบูรณ์ (อ.หล่มสัก และหล่มเก่า) จ.นครสวรรค์ (อ.ชุมแสง เมืองฯ โกรกพระ พยุหะคีรี และไพศาลี) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ) จ.ชัยนาท (อ.สรรพยา) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.อ่างทอง (อ.ป่าโมก ไชโย เมืองฯ และวิเศษชัยชาญ) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า เดิมบางนางบวช ด่านช้าง ดอนเจดีย์ อู่ทอง หนองหญ้าไซ สามชุก และสองพี่น้อง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา มหาราช บ้านแพรก บางปะหัน ท่าเรือ และนครหลวง) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นครปฐม (อ.เมืองฯ บางเลน สามพราน ดอนตูม นครชัยศรี และกำแพงแสน) จ.เลย (อ.ด่านซ้าย) และ จ.ฉะเชิงเทรา (อ.บางน้ำเปรี้ยว และ เมืองฯ)