นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานของกรมที่ดิน ในการวางมาตรการรองรับ ช่วยเหลือประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
โดยมาตรการการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม ของกรมที่ดินมีดังนี้
1. มาตรการช่วยเหลือประชาชน การได้รับสิทธิลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง สำหรับการให้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย หรือมหันตภัยอื่น (กฎกระทรวง ฉบับที่ 47 ประกอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจดทะเบียนจำนองสำหรับการได้สินเชื่อ เพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย หรือมหันตภัยอื่น พ.ศ. 2542) กรมที่ดินกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายได้รับสิทธิประโยชน์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนอง สำหรับการให้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูความเสียหายจากอุทกภัย อัคคีภัย วาตภัย หรือมหันตภัยอื่น ในอัตราร้อยละ 0.01 (จากเดิมอัตราร้อยละ 1) ของราคาทุนทรัพย์ที่ขอจดทะเบียนจำนองตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497
2. มาตรการรังวัดสอบเขตโฉนดที่ดินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กรณีแนวเขตและหลักเขตสูญหาย โดยสำรวจข้อมูลเบื้องต้นจากภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อเปรียบเทียบสภาพพื้นที่กับแปลงโฉนดที่ดินเพื่อสนับสนุนการจัดทำโครงการสอบเขตทั้งตำบลในกรณีสภาพแนวเขตลบเลือน หลักเขตสูญหาย (มาตรา 69 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดิน)
3. มาตรการออกใบแทนกรณีโฉนดที่ดินสูญหาย จากภัยพิบัติ (มาตรา 63 แห่ง ประมวลกฎหมายที่ดิน)
นอกจากนี้ กรมที่ดินได้แจ้งให้สำนักงานที่ดินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง อาทิ ติดริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา ชุมชนเมือง พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากจัดทำแผนเผชิญเหตุน้ำท่วม พร้อมทั้งมอบภารกิจเจ้าหน้าที่ในสังกัดจัดเจ้าหน้าที่ติดตามพยากรณ์อากาศ ระดับน้ำ ประกาศเตือนภัยในพื้นที่ หากมีแนวโน้มฝนตกหนักให้เตรียมขนย้ายสิ่งของ เอกสาร ขึ้นที่สูงพ้นระดับน้ำท่วมถึง ประสานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ จัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง (BCP) จัดหาสถานที่สำรองไว้บริการประชาชน และหากสำนักงานที่ดินใดมีความจำเป็นต้องย้ายสถานที่การให้บริการแก่ประชาชนไปยังสถานที่สำรองขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้บริการรับทราบ พร้อมทั้งประสานสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการติดตั้งระบบสำรองการให้บริการประชาชน หรือสำนักงานที่ดินที่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดการให้บริการ ขอให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบในทุกช่องทางการสื่อสารและสื่อสารมวลชนต่าง ๆ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงทีต่อไป