วันที่ 21 กันยายน 2568 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในการนี้มี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ พร้อมด้วย นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เข้าร่วมหารือฯ ณ เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท จากนั้น รองเลขาธิการ สทนช. และคณะได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ ณ ประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 คลองพระยาบันลือ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ฝนมาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าระหว่างวันที่ 22 – 30 กันยายน 2568 มีแนวโน้มจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “รากาซา” (Ragasa) ซึ่งแม้จะไม่เข้าประเทศไทยโดยตรง แต่จะส่งผลให้เกิดร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงดังกล่าวมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ในวันนี้ตนในฐานะประธานคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) พื้นที่ภาคกลาง จึงได้นำคณะทำงานฯ ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และหารือทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสอดรับกับสถานการณ์ฝนและปริมาณน้ำในแต่ละวันทำให้สามารถลดผลกระทบความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาวันนี้ มีน้ำไหลผ่านที่สถานี C2 หรือจังหวัดนครสวรรค์ที่อัตรา 2,202 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที รวมกับน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำสะแกกรังและน้ำฝนที่ตกด้านท้ายเขื่อน (Sideflow) ทำให้เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,555 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำหน้าเขื่อน 15.83 เมตร และยังคงการระบายที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,200 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยแบ่งการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยารวม 355 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยอัตราการระบายที่เขื่อนเจ้าพระยานี้ยังคงส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ท้ายน้ำ ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ซึ่งผลจากการสำรวจข้อมูลในพื้นที่วันนี้ จะได้นำเข้าหารือในที่ประชุมติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันพรุ่งนี้ (22 กันยายน 2568) เพื่อประกอบการบริหารจัดการน้ำให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย