รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมประเทศไทยร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป (ECDC) พร้อม 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน ปูทางสู่การจัดตั้งศูนย์ ACPHEED ให้สำเร็จ พร้อมวางรากฐานความร่วมมือเชิงพันธมิตร ศึกษาระบบประสานงานข้ามพรมแดน ความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศ การบริหารทรัพยากร การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในมิติสุขภาพหนึ่งเดียว เสริมขีดความสามารถตอบสนองโรคอุบัติใหม่
วันที่ 16 กันยายน 2568 นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรม ECDC Benchmarking Visit ณ ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรป (European Centre for Disease Prevention and Control: ECDC) เมืองโซลน่า ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 10–12 กันยายน 2568 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) ร่วมกับตัวแทนจากอีก 9 ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการศึกษาดูงานครั้งนี้เป็นรากฐานที่ดีสำหรับการเตรียมความพร้อมของภูมิภาคอาเซียนในการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (The ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) โดยได้รับองค์ความรู้ด้านโครงสร้างสถาบัน กลไกกำกับดูแล ไปจนถึงระบบข้อมูลและการประสานงานข้ามพรมแดน ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในสามยุทธศาสตร์ความร่วมมือ ไทย–JICA เพื่อให้การจัดตั้ง ACPHEED บรรลุผลสำเร็จ
นพ.พงศธรกล่าวต่อว่า ประเด็นหลักที่ได้จากการศึกษาดูงาน ECDC ครอบคลุมประวัติการก่อตั้ง บทบาท อำนาจหน้าที่และธรรมาภิบาล ภายใต้กรอบกฎหมายและกลไกประสานงานกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป การแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) และแนวทางบริหารทรัพยากร ทั้งงบประมาณ บุคลากร และการเงินในด้านเทคนิค รวมถึงศึกษาระบบเฝ้าระวังและการสร้างเครือข่าย การเตรียมพร้อม/โต้ตอบเหตุฉุกเฉิน การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Centre :EOC) ในมิติของสุขภาพหนึ่งเดียว โรคติดต่อและโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน จุลชีววิทยาและชีวสารสนเทศ รวมถึงการจัดการองค์ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ การพัฒนากำลังคน และการจัดการข้อมูล พร้อมทั้งมีการหารือแนวทางความร่วมมือระยะยาว ระหว่าง ACPHEED และ ECDC ซึ่งบทเรียนจากการแลกเปลี่ยนและองค์ความรู้จะถูกนำไปเป็นฐานในการออกแบบการปฏิบัติการของ ACPHEED ที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งทั้งสำนักเลขาธิการ ACPHEED และศูนย์ด้านการตอบโต้และสื่อสารความเสี่ยง (ACPHEED for Response and Risk Communication) เพื่อทำหน้าที่ประสานงานระดับภูมิภาค เสริมขีดความสามารถด้านการเตรียมพร้อม การตรวจจับ และการตอบสนองต่อโรคอุบัติใหม่/ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขอย่างทันท่วงที
“กิจกรรมครั้งนี้ยังถือเป็นก้าวแรกของการสร้างความสัมพันธ์เชิงพันธมิตร (Alliance) ระหว่าง ACPHEED-ECDC โดยได้หารือความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งสำนักเลขาธิการ ACPHEED การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และความร่วมมือทางวิชาการในอนาคต อาทิ การพัฒนากรอบการดำเนินงาน/มาตรฐานปฏิบัติ (SOPs) ระบบเฝ้าระวังและเตือนภัย และการฝึกอบรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน” นพ.พงศธรกล่าว