สทนช. ร่วมส่งมอบโครงการนำร่องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบน้ำประปาหมู่บ้าน อบต.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ

สทนช. ผสานความร่วมมือนานาชาติ ส่งมอบโครงการนำร่องการเพิ่มประสิทธิภาพระบบน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ อบต.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ภายใต้โครงการ P-LINK เน้นย้ำพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของความร่วมมือ สร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขงตอนล่าง เพื่อเข้าถึงน้ำสะอาดอย่างเท่าเทียม

วันที่ 11 กันยายน 2568 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการนำร่องของประเทศไทย “การเพิ่มประสิทธิภาพระบบน้ำประปาหมู่บ้านสำหรับหมู่ 1, 2 และ 3 ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ” โดยมี นายสมหวัง อารีย์เอื้อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และนายนริศ อาจหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย Dr.Chansoo Park รองผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาธารณรัฐเกาหลี (STEPI) Ms. Yejin Kim ผู้แทนหน่วยงาน UN Office for South-South Cooperation (UNOSSC) ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ผู้แทนสถาบัน Mekong Institute (MI) และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วม ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ

เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ประเทศไทยเป็น 1 ใน 4 ประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission : MRC) ร่วมกับ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดย สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ทำหน้าที่หน่วยงานกลางฝ่ายไทย ในการประสานงานกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งประเทศภาคี (สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินภารกิจให้บรรลุวัตถุประสงค์ของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 ทั้งนี้ ประเทศไทยมีนโยบายมุ่งสู่การพัฒนาอย่างสมดุลในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และน้ำของประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อความยั่งยืนและเป็นรูปธรรม

ภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ MRC และสำนักงานสหประชาชาติเพื่อความร่วมมือใต้-ใต้ (UNOSSC) ได้ร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลี ดำเนินโครงการ The Triangular Cooperation Project on Sustainable Development in the Lower Mekong Basin based on the Water–Energy–Food Nexus หรือโครงการ P-LINK มีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตอนล่าง ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรน้ำ อาหาร และพลังงาน ได้อย่างเท่าเทียม ซึ่ง สทนช. ได้เสนอโครงการพัฒนาระบบน้ำประปาหมู่บ้านสำหรับหมู่ 1 , 2 และ 3 ตำบลบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นโครงการนำร่องของประเทศไทย ที่สอดคล้องกับนโยบายตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ที่ต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและมีคุณภาพ รวมทั้งการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสนับสนุนความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐเกาหลี

สำหรับโครงการนำร่องดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2568 มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 943 ครัวเรือน (ประชากร 2,365 คน) สามารถยกระดับความน่าเชื่อถือและคุณภาพของน้ำประปาให้ดีขึ้นได้มาตรฐาน ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน เช่น ระบบตรวจจับการรั่วไหล การปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยระบบ AI ระบบเรียกเก็บค่าน้ำแบบดิจิทัล และระบบติดตามผลแบบ Cloud รวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมในการติดตั้งระบบ การทดสอบคุณภาพน้ำ และการจัดการข้อมูล เพื่อให้คนในชุมชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของและเกิดการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น ทุกครั้งที่ตรวจพบการรั่วไหล สามารถลดการสูญเสียน้ำได้ 24 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่แอปพลิเคชันเรียกเก็บค่าน้ำผ่านมือถือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการให้บริการประชาชนผู้ใช้น้ำมีความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำขึ้น

“การจัดพิธีส่งมอบโครงการนำร่องในวันนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีเพื่อร่วมรำลึกถึงวันสหประชาชาติเพื่อความร่วมมือใต้-ใต้ ประจำปี 2568 ซึ่งการดำเนินโครงการฯ บรรลุเป้าหมายอย่างดียิ่งด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะบุคลากรในพื้นที่ ทั้งคณะผู้บริหารของจังหวัดบึงกาฬและองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า ที่ให้ความสำคัญและมองเห็นปัญหาที่ชัดเจน จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ รวมทั้งการสนับสนุนด้านวิชาการและงบประมาณจาก UNOSSC , MRCS และบริษัท WI.Plat ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการร่วมกันทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำโขงมาอย่างยาวนาน เป็นสายน้ำหลักในการหล่อเลี้ยงชีวิตของคนไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย ดังนั้น “องค์การบริหารส่วนตำบลบุ่งคล้า” ถือเป็นต้นแบบความสำเร็จในการพัฒนาชุมชนริมฝั่งแม่น้ำโขง สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจะสามารถต่อยอดขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ ได้ในอนาคต และส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป” เลขาธิการ สทนช. กล่าว