วันที่ 11 กันยายน 2568 – กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการส่งเสริมทางวิชาการและข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Sharing Agreement) กับกรมส่งเสริมการเกษตร ณ ห้องประชุมนกยูงสีทอง กรมหม่อนไหม เพื่อบูรณาการข้อมูลและองค์ความรู้ ขับเคลื่อนภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมหม่อนไหมไทยให้เติบโตอย่างเป็นระบบ
พิธีลงนามในครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมลงนามฯ ได้แก่ นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม และ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีนายวัชรพงษ์ แก้วหอม และนางสาวชนชนก จันทร์เพ็ง รองอธิบดีกรมหม่อนไหม รวมถึงนายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน ภายในงานมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Fanpage “กรมหม่อนไหม” และ “กรมส่งเสริมการเกษตร” พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์อย่างใกล้ชิด
นายนวนิตย์ พลเคน อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ย้ายจาก ‘ต่างคนต่างทำ’ มาเป็น ‘ทีมเดียวข้ามกรม’ มี 3 เสาหลักชัดเจน ได้แก่ การถ่ายทอดเทคโนโลยีหม่อนไหม, การแลกเปลี่ยนทางวิชาการ, และการแบ่งปันข้อมูลเกษตรกรอย่างมีมาตรฐาน ทั้งหมดนี้จะส่งผลให้เกษตรกรเห็นผลที่จับต้องได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ”
โดยกรอบความร่วมมือครอบคลุม 3 ด้านสำคัญ ได้แก่:
1. การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม ครอบคลุมตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม แปรรูป จนถึงการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์
2. การแลกเปลี่ยนทางวิชาการ เพื่อร่วมกันยกระดับเกษตรปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
3. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวางแผนสนับสนุนเกษตรกร แปลงใหญ่ Smart Farmer และ Young Smart Farmer ได้อย่างตรงเป้าหมาย
สำหรับการวัดความสำเร็จ อธิบดีกรมหม่อนไหมชี้ว่า “มีทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเกษตรกรที่เข้าถึงบริการและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น คุณภาพผลผลิตที่สูงขึ้น มาตรฐานที่ชัดเจนขึ้น และเชื่อมโยงสู่ตลาดเพื่อรายได้ที่ยั่งยืน โดยในระยะต่อไป จะต่อยอดสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่นและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อยกระดับหม่อนไหมไทยสู่เวทีโลก”
ด้านนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เน้นว่า “ผลที่เกษตรกรจะได้รับทันที คือการเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำที่แม่นยำขึ้น ผ่านเครือข่ายเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทั่วประเทศ พร้อมเทคโนโลยีลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพรังไหม/ผ้าไหม และเชื่อมโยงสู่ตลาดอย่างเป็นระบบ โดยเน้นการทำงานเชิงพื้นที่ร่วมกันตั้งแต่ต้นทาง”
สำหรับการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรชี้แจงว่า “แลกเปลี่ยนเท่าที่ “จำเป็นต่อภารกิจ เพื่อให้ ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรได้ตรงเป้าประสงค์ เช่น ข้อมูล ทะเบียนเกษตรกร ข้อมูลเกษตรกรแปลงใหญ่ ข้อมูล Smart Farmer (SF) และข้อมูล Young Smart Farmer (YSF) โดยทั้ง สองหน่วยงาน จะดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลกำหนด เพื่อคุ้มครองให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นไปอย่างเหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงภายใต้ มาตรการคุ้มครองข้อมูลตามกฎหมาย-สิทธิ์ ความยินยอม การ กำหนดสิทธิ์เข้าถึง, การเข้ารหัส, บันทึกการใช้งานในการเข้าถึง ข้อมูล”
ความร่วมมือครั้งนี้จะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วม และแต่งตั้งผู้ประสานงานจากทั้งสองหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนโครงการย่อยที่มีเป้าหมายร่วมกัน โดยจะเริ่มจาก “พื้นที่ศักยภาพ” และขยายผลต่อยอด ตามบทเรียนที่ได้ เพื่อความคล่องตัวและวัดผลได้จริงในระดับพื้นที่
ภายใต้กรอบระยะเวลา 5 ปี ความร่วมมือครั้งนี้พร้อมขยายผลตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทในอนาคต โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับอาชีพเกษตรกรหม่อนไหมไทย ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้โครงสร้างพื้นฐานของ “ข้อมูล–เทคโนโลยี–ความรู้” ที่บูรณาการอย่างแท้จริง