นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 7 ก.ย. 68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 22 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดสิงคโปร์ที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 47.27 และขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 9 จากการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปิดภาคเรียน และนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดอินเดียที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากการมีวันหยุดต่อเนื่องภายในประเทศ อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทางส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 508,341 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 2,226 คน หรือร้อยละ 0.44 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 72,620 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย (85,639 คน) จีน (67,545 คน) อินเดีย (48,580 คน) เกาหลีใต้ (23,254คน) และสิงคโปร์ (21,348 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ และอินเดีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 47.27 และร้อยละ 29.89 ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เกาหลีใต้ และจีน มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 14.87 ร้อยละ 6.04 และร้อยละ 4.66 ตามลำดับ
สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การมีวันหยุดต่อเนื่องในประเทศมาเลเซีย การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6 รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
สรุปภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.ย. 68 พบว่า ประเทศไทย มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 7 ก.ย. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 22,387,817 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,037,239 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (3,163,562 คน) มาเลเซีย (3,135,600 คน) อินเดีย (1,612,386 คน) รัสเซีย (1,211,616 คน) และเกาหลีใต้ (1,059,615 คน)