8 กันยายน 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ลงนามบันทึกความร่วมมือ MOU ว่าด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย โดยมี ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA และ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดี สส. เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้ชีวิตด้วยความวิตกกังวลว่าน้ำจะท่วมหรือไม่ อากาศจะร้อนขนาดไหน หรือทำเกษตรจะไปรอดหรือเปล่า เป็นต้น ซึ่ง GISTDA ตระหนักถึงการบรรเทาและแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด จึงได้ร่วมมือกับทางกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ในการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมและระบบภูมิสารสนเทศเป็นกลไกสนับสนุนเชิงนโยบาย (Policy Support Tool) สำหรับการจัดทำมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก การติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และการวิเคราะห์ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ โดยจะเชื่อมโยงให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดทำบัญชีก๊าซเรือนกระจกแห่งชาติของ IPCC Guidelines for National Greenhouse Gas inventories และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีเครือข่าย โดย GISTDA มีแหล่งข้อมูลที่สำคัญจากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศที่จะมาร่วมสนับสนุน เช่น ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน พื้นที่น้ำท่วม-น้ำแล้งซ้ำซาก อุณหภูมิพื้นที่ผิว จุดความร้อน พื้นที่เผาไหม้ พื้นที่เกษตร การกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่สีเขียว การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน การวิเคราะห์และจัดทำแผนที่ความเสี่ยง การประเมินผลและการติดตามแหล่งกักเก็บคาร์บอน เป็นต้น
ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวอีกว่า หลังจากลงนามแล้ว ทั้งสองหน่วยงานจะดำเนินงานตามกรอบใน 2 โครงการสำคัญคือ 1) โครงการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่จะเน้นการจัดทำฐานข้อมูลด้านพื้นที่สีเขียวและไฟป่าทั้งประเทศ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต รวมถึงการพัฒนาแบบจำลองการปล่อยและการดูดกลับก๊าซคาร์บอนในระดับ Tier 3 ตาม IPCC อันจะเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญสำหรับการวางนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ NDC 3.0 และ 2) โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยข้อมูลภูมิสารสนเทศของประเทศไทย (ปีงบประมาณ 2568) โดย GISTDA จะเร่งทำฐานข้อมูลคาร์บอน พื้นที่สีเขียว และไฟป่าทั้งประเทศ เพื่อเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มกลาง Green Digital ของ สส. ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นระบบฐานข้อมูลกลางด้านภูมิสารสนเทศและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ทั้งนี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนจัดทำแผน ยุทธศาสตร์ มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับประเทศและท้องถิ่น รวมถึงแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูลเชิงพื้นที่และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ทั้งการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง การกัดเซาะชายฝั่ง จุดความร้อน และปัญหาฝุ่น PM 2.5 การติดตามและประเมินศักยภาพแหล่งกักเก็บคาร์บอน (Carbon Sink) ของพื้นที่สีเขียวทั้งในธรรมชาติและในเขตเมือง การส่งเสริมงานวิจัยและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึงการเชื่อมโยงความร่วมมือทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
ความร่วมมือระหว่าง GISTDA และ สส. ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดนโยบายและการวางแผนเชิงรุก ตลอดจนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายโดยมุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และการสร้างความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศในระยะยาว ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว