สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 5 ก.ย. 68 เวลา 7.00 น.

1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.นครสวรรค์ (51 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.อุดรธานี (73 มม.) จ.กาญจนบุรี (94 มม.) ภาคกลาง : กรุงเทพมหานคร (114 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ระยอง (136 มม.) ภาคใต้ : จ.พังงา (168 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ :”ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 7–10 ก.ย. 68 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลางทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 71% ของความจุเก็บกัก (57,115 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 57% (32,995 ล้าน ลบ.ม.)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำ
 เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักสูงสุด จำนวน 8 แห่ง ดังนี้ ภาคเหนือ : อ่างเก็บน้ำแม่มอก และสิริกิติ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง น้ำพุง น้ำอูน จุฬาภรณ์ และอุบลรัตน์ และภาคตะวันออก : อ่างเก็บน้ำบางพระ
 เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักมากกว่า 80-100% จำนวน 99 แห่ง ดังนี้ ภาคเหนือ 25 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 59 แห่ง ภาคตะวันออก 12 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง
 เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักมากกว่า 100% จำนวน 35 แห่ง ดังนี้ ภาคเหนือ 7 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 25 แห่ง และภาคตะวันออก 3 แห่ง

3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 5 ก.ย. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 10 จ. 26 อ. ได้แก่ จ.เชียงใหม่ (อ.แม่แจ่ม) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย สวรรคโลก ศรีนคร ศรีสำโรง และบ้านด่านลานหอย) จ.พิษณุโลก (อ.ชาติตระการ และเนินมะปราง) จ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองเพชรบูรณ์ หล่มเก่า น้ำหนาว และหนองไผ่) จ.อุตรดิตถ์ (อ.พิชัย และตรอน) จ.ร้อยเอ็ด (อ.เสลภูมิ และโพนทอง) จ.เลย (อ.เมืองเลย ภูกระดึง และด่านซ้าย) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล และบางไทร) และ จ.พังงา (อ.ตะกั่วป่า)

4.ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (4 ก.ย. 68) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 13/2568 เพื่อหารือการบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเร่งด่วน ในการรองรับมวลน้ำซึ่งกำลังเคลื่อนตัวลงมาจากพื้นที่ตอนบน โดยคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านบริเวณสถานี C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ ในอัตรา 1,900 – 2,300 ลบ.ม. ต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขา อีกประมาณ 100 ลบ.ม. ต่อวินาที จะทำให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงถึง 2,000 – 2,300 ลบ.ม. ต่อวินาที

ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได จากเดิม 1,500 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็นการระบายน้ำในอัตรามากกว่า 1,500 ลบ.ม. ต่อวินาที แต่ไม่เกิน 2,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ในวันที่ 6 ก.ย. 68 ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 0.3 – 1.1 เมตร

ทั้งนี้ มอบหมายให้จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่ประสานงานร่วมกันเพื่อซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเตรียมรับมือ พร้อมเน้นย้ำให้เร่งประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าให้ประชาชนได้รับทราบ