รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแผนดูแลสุขภาพผู้หนีภัยสู้รบ “เมียนมา” ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ 7 แห่ง 4 จังหวัด ช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 12 เดือน หลัง IRC ประกาศยุติบริการสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 วาง 2 แนวทาง จัดทำหลักประกันสุขภาพเหมาจ่ายรายหัว ลดผลกระทบเรียกเก็บค่าใช้จ่ายไม่ได้ และจัดตั้งศูนย์สุขภาพชายแดน ใช้บุคลากรสาธารณสุขต่างด้าว ลดภาระงานบุคลากรการแพทย์ไทยและลดข้อจำกัดการเข้าถึงบริการจากภาษา
วันที่ 3 กันยายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีองค์กร International Rescue Committee (IRC) ยุติการให้บริการด้านสุขภาพในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยสู้รบจากประเทศเมียนมา 7 แห่งใน 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี และราชบุรี ซึ่งมีผู้หนีภัยรวม 60,571 คน ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ว่า ได้มีการหารือกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) และกองทุนระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความร่วมมือสนับสนุนการดูแลสุขภาพผู้หนีภัย โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำแนวทางการดูแลด้านสาธารณสุขรองรับช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 12 เดือน (1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569) เพื่อให้การจัดบริการเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศว่าไทยสามารถบริหารจัดการด้านมนุษยธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า การดูแลด้านสาธารณสุขแก่ผู้หนีภัยในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ มี 2 แนวทาง คือ 1) จัดทำหลักประกันสุขภาพเหมาจ่ายรายหัว (Health Insurance Model) ให้กับผู้หนีภัย เพื่อลดผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกเก็บได้ โดยใช้เกณฑ์จากประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2568 เป็นแนวทางในการคิดค่าเหมาจ่ายรายหัว และ 2) จัดตั้งศูนย์สุขภาพชายแดน (Border Health Center : BHC) เพื่อลดผลกระทบด้านภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ไทย และลดข้อจำกัดการเข้าถึงบริการสุขภาพจากอุปสรรคด้านภาษา โดยจ้างบุคลากรต่างชาติเป็นผู้ให้บริการ รวมถึงพัฒนาศักยภาพพนักงานสาธารณสุขต่างด้าว (พสต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) โดยจะใช้งบประมาณปี 2569 รวม 159 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา ก่อนส่งให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบดำเนินการต่อไป