ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์ทุกวันนี้บุหรี่ไฟฟ้าได้แพร่กระจายสู่สังคมวงกว้าง เกิดเป็นแฟชั่นสมัยใหม่ที่ทำลายพัฒนาการของเยาวชนของชาติ ไม่เว้นแม้แต่ในสถานศึกษา ซึ่งภัยบุหรี่ไฟฟ้าได้ครอบงำกลุ่มนักเรียนโดยหารู้ไม่ว่าเป็นภัยร้ายแรงที่พร้อมจะบั่นทอนสุขภาพของพวกเขา และที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นคือการเมินเฉยของผู้ปกครองจำนวนหนึ่ง ที่ขาดการใส่ใจบุตรหลานของตัวเองต่อการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ในเวทีสมัชชาสุขภาพเมืองพัทยา ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2568 BETTER PATTAYA: HAPPY CITY สุขภาวะดี มีความสุข ณ โรงแรมไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับ เมืองพัทยา และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 ภาคีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพสากลเมืองพัทยาได้มีการวางมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนห่างไกลบุหรี่ไฟฟ้า โดยได้มีการส่งมอบมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น การปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ให้กับเมืองพัทยา พร้อมทั้งมีเวทีห้องย่อยสำหรับหารือถึงปัญหาดังกล่าวนี้
บุหรี่ไฟฟ้า ภัย (ไม่) เงียบในโรงเรียน !
นายอนุศักดิ์ เปรมเปราะ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา (โรงเรียนเมืองพัทยา 3) ในฐานะกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษา กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สช. เมืองพัทยา,โรงเรียนในสังกัดเมืองพัทยา ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 21 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันเด็กและเยาวชนห่างไกลบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นภัยเสี่ยงอย่างมากที่เด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่
“ ปัญหาในยุคอดีตเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว คือการที่นักเรียนแอบสูบบุหรี่มวนในห้องน้ำ เมื่อครูพบเห็นก็มีการลงโทษตามขั้นตอนต่างๆ แต่มาในยุคปัจจุบันที่กลายเป็นบุหรี่ไฟฟ้าพบว่ามีตัวยามากมายที่ส่งผลเสียต่อร่างกายมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีโทษในทางกฎหมาย ซึ่งมาตรการที่โรงเรียนดำเนินในช่วงที่ผ่านมา เมื่อพบเคสนักเรียนสูบบุหรี่ไฟฟ้า ก็ได้มีการเชิญสารวัตรมาพูดคุยกับเด็กนักเรียนรวมถึงผู้ปกครอง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัย ขณะเดียวกันก็จะต้องมีการทำข้อตกลงร่วมกัน เพื่อรับทราบและเข้าสู่กระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะหากไม่ตกลงก็จะต้องมีการส่งตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป” นายอนุศักดิ์ กล่าว
ตร.ฮึ่ม !! เตือนผู้ปกครอง ระวังโทษสนับสนุนเด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ทางด้าน ร.ต.ท.ทองอินทร์ ปัญญานาม รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า เนื่องจากในปัจจุบันนี้บุหรี่ไฟฟ้าได้แฝงมาในรูปแบบและกลิ่นต่างๆหลากหลายรูปแบบ ที่นำพาให้ล่อตาล่อใจเด็กและเยาวชน ซึ่งล้วนแต่เต็มไปด้วยอันตรายจากน้ำยาสารเคมีที่ซ่อนอยู่ภายใน สำนักบังคับคดีและกดหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้หารือกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ มีทิศชี้นำว่าถ้าหากสามารถจับบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาได้จะต้องส่งไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อที่จะพิสูจน์ทราบว่าในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นสารเสพติดประเภทที่ 2
“ ถ้าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ผู้ปกครองก็จะได้รับความเดือดร้อนจากบุตรหลานด้วย เพราะว่าการสนับสนุนหรือไม่ห้ามปรามบุตรหลาน ท่านก็จะมีความผิดในฐานสนับสนุนให้เด็กกระทำความผิดได้ ” ร.ต.ท.ทองอินทร์ กล่าว
พร้อมเดียวกันนี้ ร.ต.ท.ทองอินทร์ ยังได้ฝากไปถึงผู้อำนวยการสถานศึกษาต่างๆในเมืองพัทยาด้วยว่า เมื่อถึงวันประชุมผุ้ปกครองนักเรียน ให้แจ้งผู้ปกครองด้วยว่าอย่าทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน ยกตัวอย่างจากการที่ได้ติดตามสภาพตัวจริงพบว่าพ่อแม่บางคนได้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้าให้ลูกของตัวเอง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกไปโรงเรียน ซึ่งพ่อแม่สามารถประสานงานกับทางโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมมือกันป้องกันปัญหานี้ได้
บุหรี่ไฟฟ้ามักถูกโฆษณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา ทั้งที่จริงๆแล้วยังมีอันตรายต่อร่างกายและสังคมในหลายด้าน ดังนี้
1.อันตรายต่อสุขภาพ
นิโคตินสูง บุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณนิโคตินสูง ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เสพติดได้ง่าย นอกจากนี้ยังส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
สารเคมีอันตราย ไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นอันตรายหลายชนิด เช่น โลหะหนัก อย่างตะกั่วและนิกเกิล รวมถึง สารก่อมะเร็ง และสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
ปอดอักเสบเฉียบพลัน (EVALI) มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบเฉียบพลันจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ผลระยะยาว งานวิจัยเริ่มชี้ให้เห็นว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดเรื้อรัง มะเร็ง และโรคหัวใจ
2. ผลกระทบต่อวัยรุ่น
บุหรี่ไฟฟ้ามักมีกลิ่นและรสชาติที่หลากหลาย เช่น ผลไม้ ขนม หรือหมากฝรั่ง ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายและรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าลอง งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า วัยรุ่นที่เริ่มใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะหันไปสูบบุหรี่มวนในอนาคต นอกจากนี้สารนิโคตินยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อพัฒนาการสมองส่วนหน้าในวัยรุ่น ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการตัดสินใจและการเรียนรู้
3. ความเข้าใจผิดในสังคม
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน ทั้งที่ความจริงแล้วยังคงมีสารพิษและอันตรายต่อร่างกายไม่ต่างกัน อีกทั้งมีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ทำให้ยากต่อการควบคุม และยังทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
4. กฎหมายและมาตรการในประเทศไทย
บุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ปัจจุบัน การนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยผู้นำเข้ามีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนผู้ครอบครอง จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้าหรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นการตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพราะนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย