กรมการแพทย์แผนไทยฯ เผย แนวทางการดำเนินงานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 และ การพัฒนาระบบควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผย แนวทางการดำเนินงานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 และ การพัฒนาระบบควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์ มีเป้าหมายชัดเจนในการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยมีมาตรการควบคุมเข้มงวด ภายใต้กรอบกฎหมายและนโยบายรัฐบาล

วันที่ 1 กันยายน 2568 ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จัดพิธีแถลงข่าว การดำเนินงานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 และ การพัฒนาระบบควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยมี นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย นายสุปรีย์ ทองเพชร นายกสมาคมสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME ร่วมแถลงข่าว

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ สมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ. 2568 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มิถุนายน 2568 นั้น มีการกำหนดมาตรการควบคุม “ช่อดอกกัญชา” ได้แก่ ผู้ป่วยต้องมีใบสั่งแพทย์ จึงจะสามารถเข้าถึงช่อดอกกัญชาได้ ร้านจำหน่ายต้องมีใบอนุญาต และจัดหากัญชาจากแหล่งปลูกที่ได้มาตรฐาน ห้ามจำหน่ายกัญชาผ่าน ออนไลน์ เครื่องขายอัตโนมัติ และโฆษณาเพื่อการค้า ใบสั่งแพทย์จำกัดการจ่าย ไม่เกิน 30 วันต่อครั้ง

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการต้องบันทึกผลการมีและการใช้กัญชาในระบบ ตามแบบ ภ.ท.27 และแบบ ภ.ท.28 พร้อมส่งรายงานดังกล่าวผ่านระบบ online หรือ E-mail ให้ผู้อนุญาตเป็นประจำทุกเดือน ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยต้องมีใบสั่งจ่ายแพทย์ ภ.ท.33 ซึ่งออกโดยผู้ประกอบวิชาชีพ 6 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนจีน เภสัชกร ทันตแพทย์ และหมอพื้นบ้าน อีก 1 กลุ่ม เท่านั้น โดยการใช้กัญชาจะจำกัดอยู่ใน 5 กลุ่มอาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ, ปวดเรื้อรัง, ไมเกรน, พาร์กินสัน และเบื่ออาหาร
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจึงมีการพัฒนาบุคลากรประกอบวิชาชีพ 6 วิชาชีพ และ หมอพื้นบ้าน อีก 1 กลุ่ม ต้องผ่านการอบรมการสั่งจ่ายตามใบสั่งแพทย์ ภ.ท.33 ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 3,693 คน และพัฒนา ระบบ Telemedicine สำหรับกัญชาทางการแพทย์ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลใบ ภ.ท.27, ภ.ท.28 และ ภ.ท.33 เข้าสู่ฐานข้อมูลกลาง ลดความเสี่ยงจากการใช้ใบสั่งซ้ำ และเสริมการควบคุมที่แม่นยำ ล่าสุด กรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมมือกับภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยมากกว่า 3 หน่วยงาน ในการพัฒนาระบบ เพื่อติดตามผลการรักษาอย่างเป็นระบบ และ ส่งมอบให้กรมได้ทดลองใช้งานฟรี ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมและกำกับดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัย มากยิ่งขึ้น“ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นของกรมฯ ในการสร้างระบบการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่ปลอดภัย ตรวจสอบได้ และเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง”

ด้านนายสุปรีย์ ทองเพชร นายกสมาคมสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม SME เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ร่วมพัฒนาระบบ “CannaMed Connect” แพลตฟอร์มกลางที่สนับสนุนการควบคุมการใช้กัญชาอย่างรอบด้าน โดยมีคุณสมบัติสำคัญ ดังนี้ 1) ควบคุมการออกใบสั่งจ่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) รองรับการปรึกษาแพทย์และออกใบ ภ.ท.33 แบบออนไลน์ เพิ่มโอกาสการเข้าถึง สำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล 2) ระบบลงทะเบียนผู้ป่วยและจัดเก็บข้อมูล อย่างปลอดภัย แพทย์สามารถติดตามประวัติการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง 3) ใบ ภ.ท.33 ดิจิทัล ป้องกันการปลอมแปลง เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ 4.รายงานและติดตาม ช่วยให้สถานประกอบการส่งข้อมูลให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง 5. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานอย่างรัดกุม ระบบนี้ใช้งานง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการกัญชาทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงได้อย่าง เท่าเทียม เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับประเทศ