วธ. เปิดอบรมพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดัน Soft Power สู่ตลาดโลก 

วันที่ 22 สิงหาคม 2568 นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (Cultural Product of Thailand: CPOT) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ภก.ธนะเศรษฐ์ จ้าวหิรัญพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ดร.กรกต อารมย์ดี ศิลปินศิลปาธร ปี 2560 ดร.ศรายุทธ แสนมี ผู้อำนวยการสำนักงานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม คณะวิทยากร และผู้เข้าร่วมอบรม เข้าร่วม ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา (Swissôtel Bangkok Ratchada)

นายประสพ กล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันทุนทางวัฒนธรรมของไทย ให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระดับเศรษฐกิจโลกได้อย่างยั่งยืน กระทรวงวัฒนธรรม มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในยุคที่ Soft Power และแนวคิด BCG Economy มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ การจัดโครงการในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และผู้สนใจจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์และความยั่งยืน

นายประสพ กล่าวอีกว่า กระทรวงวัฒนธรรม เล็งเห็นถึงความสำคัญของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับทิศทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกเพื่อเสริมสร้างสังคมเข้มแข็ง พัฒนาชุมชน สังคมและประเทศชาติ ผลักดันจากรากฐาน และสนับสนุนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างโดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ชุมชน ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย นำแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) มาใช้ในกระบวนการผลิต เพิ่มคุณภาพ มูลค่าของผลิตภัณฑ์ ผสมผสานองค์ความรู้ดั้งเดิม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และคุณค่าทางวัฒนธรรมไทยเข้ากับนวัตกรรม และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับสากล ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการใช้วัสดุธรรมชาติ วัสดุรีไซเคิล และกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพและมูลค่าของผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (Cultural Product of Thailand: CPOT) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้มีความทันสมัยและสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพแรงงานและผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดที่มุ่งเน้นความยั่งยืน สร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

“การอบรมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน แต่ยังเป็นการสร้างอัตลักษณ์ไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก ผ่านการใช้ Soft Power อย่างชาญฉลาด พร้อมทั้งตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจ BCG และเป้าหมาย SDGs อย่างเป็นรูปธรรม” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

ด้านศาสตราจารย์ ดร.ภก.ธนะเศรษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และเผยแพร่องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมสำคัญนี้ เราเชื่อมั่นว่าการผสมผสานองค์ความรู้ และการออกแบบที่ยั่งยืน จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของไทยให้มีมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอบรมในครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นของความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ประกอบการ ศิลปิน นักออกแบบ และนักวิชาการ ได้รับแรงบันดาลใจ ความรู้ และแนวคิดใหม่ๆ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเองให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้ การจัดโครงการอบรมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 24 สิงหาคม 2568 มีผู้แทนชุมชน ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก จำนวน 20 คน รวมถึงนักวิชาการวัฒนธรรมหรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจากส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการและการศึกษาดูงาน โดยมีหัวข้อสำคัญ เช่น นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน การออกแบบผลิตภัณฑ์และ DNA แบรนด์ กลยุทธ์การขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และการศึกษาดูงาน ณ Jird Design Gallery อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ของ ดร.ศุภพงศ์ สอนสังข์ โรงงานเถ้าฮงไถ่ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ของคุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ และศึกษาการออกแบบที่พักที่ผสมผสานวิถีชีวิตดั้งเดิมกับดีไซน์ร่วมสมัยด้วยลีลาของไม้ไผ่ ณ The Buffalo Amphawa อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ของ ดร.กรกต อารมณ์ดี