สาเหตุหลัก: ผู้ป่วยถูกสุนัขกัดหรือข่วน แต่ ไม่รีบไปรับวัคซีนป้องกัน
👉 โรคพิษสุนัขบ้า รุนแรงถึงชีวิต หากรับเชื้อแล้ว ไม่มีทางรักษาหาย แต่สามารถป้องกันได้ 100% ด้วยการรับวัคซีนให้ครบตามนัด!
อาการที่ต้องระวัง
– เริ่มมีไข้ต่ำ ๆ คันหรือแสบร้อนที่แผล
– กระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม พูดจาเพ้อเจ้อ
– น้ำลายไหล กลืนลำบาก หายใจติดขัด
– ชักเกร็ง หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
– ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ต้องรู้ 3 ขั้นตอน
1. ก่อนถูกกัด: ใช้คาถา 5 ย. ป้องกันสุนัขกัด
“อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง”
🟡 อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห
🟡 อย่าเหยียบหาง-ตัว
🟡 อย่าแยกสุนัขที่กัดกันด้วยมือเปล่า
🟡 อย่าหยิบชามอาหาร
🟡 อย่ายุ่งกับสุนัขแปลกหน้า
2. ถูกกัดแล้วต้องทำยังไง?
✔ ล้างแผลทันทีด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ รอบ
✔ ใส่ยาฆ่าเชื้อ (เช่น เบตาดีน)
✔ รีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน
✔ กักสัตว์ที่กัดไว้ดูอาการ 10 วัน
หากสุนัขเสียชีวิต ให้แจ้งผู้นำชุมชนและปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที
3. หลังถูกกัด: ฉีดวัคซีนให้ครบ!
โดยทั่วไปแพทย์จะนัดฉีด 4 – 5 ครั้ง และอาจพิจารณาฉีดวัคซีนบาดทะยักร่วมด้วย
ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง / 30 บาท)
✅ รับบริการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าได้ ที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิ
✅ หากอยู่ไกลหน่วยบริการ สามารถรับบริการที่ หน่วยบริการอื่นในระบบ สปสช. ได้ทุกแห่ง
✅ กรณีฉุกเฉินหรือเป็นอุบัติเหตุ แพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสมในการให้ใช้สิทธิ
🐶 อย่าละเลยแผลเล็ก ๆ จากสัตว์เลี้ยง เพราะอาจแลกด้วยชีวิต
#สปสช #สิทธิบัตรทอง #30บาทรักษาทุกที่ #วัคซีนพิษสุนัขบ้า #ป้องกันดีกว่ารักษา #เจ็บป่วยฉุกเฉิน #ผู้ถูกสุนัขกัด #คาถา5ย #1330สายด่วนสปสช #ดูแลสุขภาพ #อุบัติเหตุ #บาดทะยัก #โรคพิษสุนัขบ้า