สธ. เตรียมถอดบทเรียนบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์ฯ กรณีชายแดน ไทย-กัมพูชา พร้อมรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามมติ ครม. และ สมช.

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 20 แห่ง เปิดให้บริการได้ปกติแล้ว 19 แห่ง ขณะที่ รพ.สต. 149 แห่ง เปิดให้บริการปกติครบทุกแห่ง มูลค่าความเสียหายทั้งสิ่งก่อสร้างและวัสดุ เกือบ 150 ล้านบาท เร่งรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลเพื่อจัดทำคำของบประมาณสนับสนุน และรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามตามมติ ครม.และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมทั้งถอดบทเรียนและจัดทำแผนเตรียมความพร้อมในระยะต่อไป

วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่มีผลการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) โดดเด่นรายหมวด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 23 หน่วยงาน 24 ผลงาน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจกับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน

นพ.โอภาสกล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานสำคัญ อาทิ การบริหารจัดการภาวะฉุกเฉินและผลกระทบด้านการแพทย์และสาธารณสุข จากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล่าสุด ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2568 มีผู้เสียชีวิตรวม 17 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิตทางตรง 14 ราย ทางอ้อม 3 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 14 ราย รวมบาดเจ็บสะสม 39 ราย ยังคงเหลือผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2 ราย ที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ และ รพ.สุรินทร์ ส่วนด้านสุขภาพจิต ได้ทำการคัดกรองสะสม 86,854 ราย พบเครียดสูง 4,541 ราย และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 499 ราย ซึ่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) ยังคงติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องจนกว่าสภาพจิตใจจะกลับสู่ภาวะปกติ

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สำหรับโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 20 แห่ง ขณะนี้เปิดให้บริการได้ตามปกติแล้ว 19 แห่ง คงเหลือเปิดบริการบางส่วน 1 แห่ง คือ รพ.พนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ส่วนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับผลกระทบรวม 149 แห่ง เปิดให้บริการปกติได้ครบทุกแห่ง โดยจากการประเมินความเสียหายของสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ ทั้งสิ่งก่อสร้างและวัสดุ (ยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา วัสดุอนามัยสิ่งแวดล้อม วัสดุควบคุมโรค และวัสดุอื่นๆ) รวมมูลค่าประมาณ 148,300,000 บาท ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลความเสียหายให้ครบถ้วน เพื่อจัดทำคำของบประมาณสนับสนุนเสนอสำนักงบประมาณ และให้รวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายฯ ในส่วนความเสียหายต่อกระทรวงสาธารณสุข ตามมติ ครม.และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมทั้งเตรียมถอดบทเรียนเพื่อจัดทำแผนเตรียมความพร้อมในระยะต่อไปด้วย

นอกจากนี้ ยังได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติ 125 ปี แห่งการพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี วันที่ 21 ตุลาคม 2568 และการจัดกิจกรรม Kick-off การรณรงค์ “ยุติความรุนแรงในสถานพยาบาล” ช่วงเดือนกันยายน 2568 เป็นต้น