1. ปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่ (68 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.ขอนแก่น (61 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (19 มม.) ภาคกลาง : สุพรรณบุรี (29 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ระยอง (46 มม.) ภาคใต้ : จ.ยะลา (88 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฟ้าคะนองบางแห่ง
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 21 – 25 ส.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,731 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 49% (28,613 ล้าน ลบ.ม.)
3. ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามข้อสั่งการในเรื่องสถานการณ์น้ำและลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาภัยแล้งของ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในครั้งลงพื้นที่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 68 และปัญหาสำคัญที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ณ วัดห้วยลุง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำใน จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำตะคอง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของจังหวัด และติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการและได้มอบนโยบายเพิ่มเติม ดังนี้
1) ให้กรมชลประทาน เก็บกักปริมาณน้ำให้ได้ให้มากที่สุด รวมถึงรักษาสมดุลน้ำอย่างเหมาะสมและมีการบริหารจัดการน้ำตามแผนที่กำหนดไว้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งมีการบูรณาการและประสานกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
2) ให้ จ.นครราชสีมา ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคและเทศบาลนครนครราชสีมา เร่งจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอกับความต้องการ และรายงานความก้าวหน้าต่อ สทนช. อย่างต่อเนื่อง
3) ให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการโครงการระบบสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำบ้านซับศรีจันทร์ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว ให้แล้วเสร็จตามแผนงาน และวางแผนการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน และอ่างเก็บน้ำลำแชะ โดยให้ความสำคัญกับการอุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นอันดับแรก สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ ให้พิจารณาตามลำดับความสำคัญของการใช้น้ำ
4) ให้การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสีคิ้ว เร่งขยายระบบประปาในส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการในเขตพื้นที่ อ.สีคิ้ว
5) ให้กรมทรัพยากรน้ำ”กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนการใช้เครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรเครื่องมืออื่นๆ ให้พร้อมเพื่อรับมือในกรณีเกิดเหตุอุทกภัยและภัยแล้ง
6) ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงที่อาจประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะการเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำลำตะคอง
7) ให้ จ.นครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนงานระยะยาว สำหรับเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนและการพัฒนาระบบประปาให้ได้มาตรฐาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ และ กนช.
8) ให้ สทนช. กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาและขับเคลื่อนแผนงานในการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำลำเชียงไกร รวมถึงการบริหารน้ำของอ่างลำเชียงไกรตอนบนและตอนล่าง โดยต้องสอดคล้องกับสภาพพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม เพื่อให้การแก้ปัญหาน้ำของ จ.นครราชสีมาเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ลดความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความมั่นคงด้านน้ำในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนต่อไป