วันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการน้ำบาดาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้การต้อนรับ
นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีภารกิจสำคัญด้านการสำรวจ การพัฒนาเพื่อนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ประโยชน์ การอนุรักษ์น้ำบาดาล และการกำกับ ควบคุมการประกอบกิจการน้ำบาดาล เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล และก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในองค์รวม รวมถึงแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร การประชุมวิชาการน้ำบาดาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ “น้ำบาดาลในบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง” เพื่อให้นักวิชาการด้านน้ำบาดาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงบุคลากรกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้นำเสนอผลงานทางวิชาการ ถ่ายทอดผลงานวิจัย นวัตกรรม โครงการ และข้อมูลทางวิชาการด้านน้ำบาดาลในระดับประเทศ สำหรับกิจกรรมการประชุมวิชาการในครั้งนี้ ประกอบด้วย การนำเสนอนิทรรศการด้านน้ำบาดาล การเสวนาทางวิชาการ และการนำเสนอผลงานวิชาการน้ำบาดาล
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และเป็นแหล่งน้ำสำรองที่สามารถนำมาใช้เพื่อเตรียมรับมือต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำอันเนื่องมาจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล จึงเป็นภารกิจที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาท ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลของประเทศ ต้องตระหนักและปรับตัวให้รับกับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลที่เป็นเอกภาพและยั่งยืน การประชุมวิชาการน้ำบาดาลครั้งนี้ จึงเป็นเวทีที่สำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิชาการน้ำบาดาลและศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสู่สาธารณะ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนทักษะของบุคลากรของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นักวิชาการด้านน้ำบาดาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อันจะส่งผลต่อการพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลของประเทศ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด