ปลัด สธ. เปิดสัมมนาพัฒนา Service Plan ยกระดับบริการสุขภาพที่ตอบสนองพื้นที่ ลดอัตราป่วยตาย ลดเวลารอคอย

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ระดมผลงานวิชาการและนวัตกรรม Service Plan รวม 26 สาขา จากทุกเขตสุขภาพ พร้อมผลงานที่เป็น Best Practice เพื่อให้บุคลากรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำไปประยุกต์พัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ตอบสนองปัญหาสุขภาพในแต่ละพื้นที่ ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน ลออัตราป่วยตาย ลดระยะเวลารอคอย

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan Sharing) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “ยกระดับบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอัจฉริยะเพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม : Advancing Smart Service Plan for the Next Generation of Holistic Healthcare” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 สิงหาคม 2568 โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย มหาวิทยาลัย ราชวิทยาลัย สมาคมวิชาชีพ และบุคลากรสาธารณสุข เข้าร่วม 1,500 คน

นพ.โอภาสกล่าวว่า ปัจจุบันระบบสุขภาพไทยกำลังเผชิญสิ่งท้าทายรอบด้าน อาทิ การเข้าสู่สังคมสูงอายุ การเปลี่ยนจากสังคมชนบทสู่สังคมเมือง การเชื่อมต่อการค้าการลงทุนทั่วโลก ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประชาชนมีความคาดหวังต่อคุณภาพของระบบบริการมากขึ้น ขณะที่งบประมาณภาครัฐเริ่มไม่เพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ใน 12 เขตสุขภาพ และเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างสุขภาพคนไทยเชิงรุก ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในระบบบริการสุขภาพ เน้นการสร้างระบบบริการที่ตอบสนองปัญหาสุขภาพสำคัญของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่ได้มาตรฐาน ลดอัตราป่วยและตาย ลดระยะเวลารอคอย ทำให้องค์กรมีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมหรือผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน และขยายโอกาสในการพัฒนางาน ซึ่งปัจจุบันได้ขยายระบบบริการสุขภาพรวม 26 สาขา

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า การจัดเวทีสัมมนาวิชาการเป็นโอกาสดีที่ผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานทุกสาขาวิชาชีพและทุกเขตสุขภาพ จะได้ร่วมกันวางแผนการพัฒนาระบบ บูรณาการความเชื่อมโยงการให้บริการในแต่ละสาขา รวมถึงเป็นพื้นที่ให้เผยแพร่ผลงานนวัตกรรมทางวิชาการของ Service Plan แต่ละสาขา โดยเฉพาะผลงานที่เป็น Best Practice ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนำไปพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีประสิทธิภาพตามบริบทของพื้นที่และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการมอบรางวัลผลงานวิชาการและนวัตกรรมดีเด่น จำนวน 51 รางวัล เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานทั่วประเทศด้วย