การรถไฟฯ เดินหน้าตามกรอบกฎหมาย ภายหลังกระทรวงหมาดไทยไฟเขียวเพิกถอนโฉนดทับซ้อนที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง ย้ำปกป้องที่ดินของรัฐไว้ให้กับประเทศและประชาชน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยระบุว่า โฉนดที่ออกเอกสารสิทธิ์ทับซ้อนที่ดินรถไฟบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 2568 สามารถขอเพิกถอนที่ดินที่อยู่ตรงกลางทั้งหมดได้ทันที ส่วนที่ดินชายขอบที่มีปัญหาอยู่บ้างจะตรวจสอบให้ชัดเจนต่อไปว่า แนวทางการดำเนินงานของการรถไฟฯ หลังจากนี้ ในส่วนของกระบวนการเพิกถอนโฉนดที่เอกสารสิทธิ์ที่ดินยังคงต้องรอคำสั่งจากอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ หรือผู้รักษาราชการแทนก่อน เพื่อสั่งการให้สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการตามคำสั่งพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ตัดสินให้เพิกถอนโฉนดตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยระบุชัดเจนด้วยว่า ในปี 2567 กรมที่ดิน และการรถไฟฯ ได้ร่วมกันสอบแนวเขตออกมาชัดเจนแล้ว ดังนั้น กรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนโฉนดเขากระโดงตามมาตรา 61 วรรค 8 ของประมวลกฎหมายที่ดินได้เลย ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามผลการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดินเป็นระยะๆ

นายวีริศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้ครอบครองที่ดินภายในพื้นที่ดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ เตรียมดำเนินการตามกระบวนการที่เหมาะสม โดยจะมีการเจรจากับผู้อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ที่ดินก่อนว่า ประสงค์จะย้ายออก หรือเข้าระบบการเช่าที่ดินตามระเบียบของการรถไฟฯ ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันได้ ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น การรถไฟฯ พร้อมเปิดทางเลือกให้สามารถเช่าที่ดินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งถือเป็นแนวทางการเยียวยาที่ต้องการให้มีผู้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

“การรถไฟฯ ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ความยุติธรรมและเป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน” ผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวทิ้งท้าย