เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 11.00 น. เกิดเหตุพลุระเบิด ในพื้นที่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้สั่งการให้ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผู้บาดเจ็บ และทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิต ให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมโดยเร็ว
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ทันทีที่รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้ นางสาวณัฐชุตา ทิยะขัติ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประกันสังคมจังหวัดสุพรรณบุรี เร่งตรวจสอบข้อมูลผู้ประสบเหตุ พบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 6 ราย เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จำนวน 2 ราย โดยผู้เสียชีวิต ได้แก่
1. นางสาวกันตนา อายุ 24 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3
2. นางสาวภูชิยา อายุ 25 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1
3. นางสาวจำเนียร อายุ 41 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2
4. นางสาวกานดา อายุ 38 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2
5. นางสาวนิภาวรรณ อายุ 45 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2
6. นางสาวกัลยา อายุ 27 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2
7. นางสาวอำภาภร อายุ 40 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 39
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการประสบอันตรายไม่เนื่องจากการทำงาน ทายาทของผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ได้แก่ เงินค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย สูงสุดในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างจำนวน 4 เดือน รวมถึงเงินบำเหน็จชราภาพรวมดอกผล ส่วนทายาทของผู้ประกันตนมาตรา 40 ถึงแม้จะขาดส่งเงินสมทบ ก็ยังได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินบำเหน็จชราภาพรวมดอกผลเช่นกัน โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิรวมทั้งสิ้นกว่า 1.6 แสนบาท ด้านผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ได้แก่
1. นางนันทนา อายุ 43 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3
2. นายจุมพล อายุ 39 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1
ได้นำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี แล้ว
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า ในกรณีที่ผู้ประกันตนมาตรา 40 นำส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่องจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย โดยหากแพทย์วินิจฉัยให้พักรักษาตัวจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน ไม่เกิน 90 วันต่อปี รวมถึงสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพ และกรณีตาย ซึ่งถือเป็นหลักประกันในการดำรงชีวิตของแรงงานนอกระบบจากสำนักงานประกันสังคม และขอย้ำว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลผู้ประกันตนไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบหรือแรงงานภาคอิสระ ให้ได้รับความคุ้มครองช่วยเหลือในยามเดือดร้อน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ
——————————————–
“ประกันสังคม คุ้มครองทุกวัย ใส่ใจทุกคน”
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน