วธ. เดินหน้าจัดตั้ง และรับรองวัดคาทอลิกแห่งใหม่ หนุนศาสนสถานเข้าระบบอย่างถูกต้อง โปร่งใส*

นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ซึ่งถือเป็นภารกิจในการจัดระเบียบศาสนสถานให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานกลางของประเทศ ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบจัดตั้งวัดคาทอลิก จำนวน 1 แห่ง ซึ่งนับเป็นวัดคาทอลิกแห่งแรกที่ดำเนินการยื่นคำขอตั้งวัดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 และยังมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบรับรองวัดคาทอลิกเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง เพื่อให้เป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบดังกล่าว ปัจจุบัน มีวัดคาทอลิกที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับรองแล้วจำนวน 301 วัด จากคำขอให้รับรองทั้งหมด 360 แห่ง ที่มิซซังทั่วประเทศยื่นผ่านกรมการศาสนา โดยอีก 57 แห่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากยังขาดเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน หรือยังไม่ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานราชการ ซึ่งกรมการศาสนาได้ประสานงานเพื่อขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ยื่นคำขอแล้ว

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า สำหรับวัดคาทอลิกที่ได้รับการเสนอให้จัดตั้งในครั้งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี สังกัดเขตปกครองมิซซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ ส่วนวัดคาทอลิกที่ได้รับการเสนอให้รับรองเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ วัดคาทอลิกในจังหวัดราชบุรี สังกัดมิซซังโรมันคาทอลิกราชบุรี และจังหวัดสกลนคร สังกัดมิซซังโรมันคาทอลิกท่าแร่–หนองแสง ซึ่งวัดคาทอลิกที่ผ่านการจัดตั้งและรับรองต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ได้แก่ ได้รับความเห็นชอบจากสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย มีข้อมูลสถานที่ตั้งชัดเจน มีเอกสารสิทธิ์หรือหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินมีบาทหลวงประจำวัดที่ประกอบศาสนกิจอย่างต่อเนื่อง มีเอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร รับรองความมั่นคงแข็งแรง มีระบบสาธารณูปโภค และอุปกรณ์ศาสนพิธีที่จำเป็น ตลอดจนได้รับการสนับสนุนจากศาสนิกชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งวัดคาทอลิกเป็นการดำเนินงานที่แยกจากกระบวนการรับรองวัดคาทอลิก ซึ่งดำเนินการกับวัดที่จัดขึ้นใหม่อย่างถูกต้องตามระเบียบ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ยื่นคำขอจัดตั้ง กรมการศาสนาได้พัฒนาระบบการยื่นคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-service) ทางเว็บไซต์กรมการศาสนา (www.dra.go.th) มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมากแก่ผู้ยื่นคำขอ ทำให้กระบวนการรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การจัดตั้งและรับรองวัดคาทอลิก ถือเป็นแนวทางส่งเสริมและอุปถัมภ์ศาสนาในประเทศไทยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของสังคมปัจจุบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของกระทรวงวัฒนธรรม อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างบทบาทของกระทรวงฯ ในการสนับสนุนคริสต์ศาสนิกชนให้มีศาสนสถานในการประกอบศาสนกิจ ตลอดจนได้รับการศึกษาและปลูกฝังคุณธรรมที่ถูกต้องตามหลักธรรมของคริสต์ศาสนา อันเป็นรากฐานแห่งศีลธรรมและจริยธรรมในสังคมไทยโดยรวม