กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สานต่อภารกิจวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย ล่าสุดได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสารสกัด 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน (7-hydroxymitragynine) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญอีกชนิดหนึ่งในใบกระท่อม (Mitragyna speciosa) ให้กับ บริษัท เอออร์ต้า เอ็มจี จำกัด เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ต่อยอดสู่อุตสาหกรรมแปรรูปสมุนไพรที่มีมูลค่าสูง ช่วยยกระดับมาตรฐานสมุนไพรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลก โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนากรรมวิธีการผลิตสารสกัด 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน ให้มีความเข้มข้นสูงเพียงพอที่จะนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ รวมถึงได้จดอนุสิทธิบัตรกรรมวิธีเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ โดย 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน เป็นสารที่มีข้อมูลฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาอาการปวด ซึ่งมีความน่าสนใจในระดับสากล และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยา
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทยอย่างยั่งยืน การสกัด 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน ให้ได้ความเข้มข้นสูงและมีมาตรฐาน เป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้สมุนไพรไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานมูลค่าสูง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันตามเป้าหมายโมเดล BCG Economy ที่เน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างรู้คุณค่า และสร้างมูลค่าเพิ่มกลับสู่เกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่ออีกว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีครั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ถ่ายทอดกรรมวิธีการผลิตสารสกัด 7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน ให้กับ บริษัท เอออร์ต้า เอ็มจี จำกัด ผู้ประกอบการไทยที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ผลิตเป็นสารสกัดมาตรฐานสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองนโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการพัฒนาเศรษฐกิจนวัตกรรม และนโยบายของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือ BCG Economy Model ที่ต้องการเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมสุขภาพและสมุนไพรครบวงจร นอกจากนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังมีแผนเดินหน้าวิจัยและพัฒนาสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ ควบคู่กับการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัย พร้อมขยายความร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพอาเซียนต่อไป ความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย แต่ยังส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกระท่อม ด้วยการรับซื้อวัตถุดิบอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาผลิต
ด้านนายวรนล ฐิตินันทกร กรรมการผู้จัดการบริษัท เอออร์ต้า เมดิคอล จำกัด กล่าวถึงโอกาสจากการได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีว่า “เรามองเห็นศักยภาพของสมุนไพรไทยในตลาดโลก การได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถผลิตสารสกัด7-ไฮดรอกซีไมทราไจนีน ซึ่งสามารถส่งออกเพื่อจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยเรายังมุ่งหวังที่จะยกระดับมาตรฐานโรงงานให้เป็น GMP และต่อยอดไปถึงมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสมุนไพรไทย”