นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า ไทยยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคในการดูแลแรงงานข้ามชาติ พร้อมมีแผนรองรับกรณีแรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับประเทศ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของภาคเศรษฐกิจและตลาดแรงงานไทย
กรณีที่ปรากฏภาพข่าวในเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคี เพื่อขับเคลื่อนแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ค.ศ. 2024–2028 ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงกรณีที่ประเทศไทยละเมิดสิทธิแรงงานและใช้ความรุนแรงต่อแรงงานชาวกัมพูชา พงศ์กวิน ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ประเทศไทยในฐานะภาคีขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเสมอภาคในการจ้างงาน
กระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายเลือกปฏิบัติต่อแรงงาน ไม่ว่าจะมีเชื้อชาติหรือสัญชาติใด และการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามหลักกฎหมายและมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในบริบทที่แรงงานข้ามชาติมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะนี้ กระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่ถูกกล่าวอ้าง พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับฟังข้อมูลจากภาคประชาสังคม เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองแรงงานข้ามชาติที่รัดกุมและเป็นธรรม โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนมีความตึงเครียด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงงานบางกลุ่ม
สำหรับสถานการณ์แรงงานกัมพูชาทยอยเดินทางกลับประเทศ กระทรวงฯได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีแรงงานสัญชาติกัมพูชาบางส่วนเดินทางกลับประเทศจากสถานการณ์ความไม่สงบในบางพื้นที่บริเวณชายแดน โดยอยู่ระหว่างการสำรวจและรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน ผ่านความร่วมมือกับกรมการจัดหางานและหน่วยงานความมั่นคง
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดลงพื้นที่สื่อสารสร้างความเข้าใจกับนายจ้างและสถานประกอบการ พร้อมรับฟังผลกระทบ เพื่อเตรียมแนวทางรองรับแรงงานอย่างเหมาะสม
พร้อมเน้นย้ำว่า กระทรวงแรงงานมีแผนรองรับในกรณีที่แรงงานกัมพูชากลับประเทศจำนวนมาก โดยจะพิจารณาจัดหาแรงงานสำรองจากประเทศอื่นที่มีความพร้อม และขณะนี้ยังมีแรงงานต่างด้าวที่รอการขึ้นทะเบียนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำเข้าสู่ระบบงานได้ทันที
“ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ แม้จะมีแรงงานบางส่วนเดินทางกลับประเทศ แต่จะไม่กระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานมีแรงงานสำรองเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศอย่างแน่นอน” พงศ์กวิน กล่าว
กระทรวงแรงงานยังได้ติดตามประเมินผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมที่พึ่งพาแรงงานข้ามชาติ เช่น อาหารทะเล เกษตรกรรม และการผลิตภาคแปรรูป เพื่อวางแผนบรรเทาผลกระทบอย่างเป็นระบบ
รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานในมิติสิทธิมนุษยชนควบคู่กับความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจ โดยมุ่งรักษาภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีการค้าโลก ทั้งในด้านมาตรฐานแรงงาน ความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานพร้อมดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อคุ้มครองแรงงานข้ามชาติ ยกระดับคุณภาพการจ้างงาน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยืนยันว่าไทยยังคงยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน สันติภาพ และความเป็นธรรมในการบริหารแรงงาน