รมว. อรรถกรสั่งกรมปศุสัตว์เร่งช่วยเกษตรกรชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ ระดมทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ดูแลฟื้นฟูสุขภาพสัตว์รวมเกือบ 1 ล้านตัว จัดส่งเสบียงหญ้าอาหารสัตว์ วางแผนเยียวยาเร่งด่วน
นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ เพื่อบรรเทาความเสียหายด้านปศุสัตว์อย่างเร่งด่วน ทั้งการช่วยเหลือในระยะเผชิญเหตุและการฟื้นฟูในระยะต่อไป โดยได้จัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์ รวมถึงเตรียมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี และสระแก้ว รวม 8 อำเภอ 32 ตำบล 40 หมู่บ้าน เกษตรกร 19,716 ราย มีสัตว์เลี้ยงรวม 997,268 ตัว ประกอบด้วย โค 61,172 ตัว กระบือ 17,517 ตัว สุกร 22,613 ตัว แพะ-แกะ 3,128 ตัว และสัตว์ปีก 892,838 ตัว รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 233 ไร่
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์รายงานว่า มีสัตว์ตายรวมทั้งสิ้น 48 ตัว ประกอบด้วยจังหวัดสุรินทร์ 38 ตัว เป็นโค 14 ตัว กระบือ 1 ตัว แพะ 3 ตัว และสัตว์ปีก 20 ตัว จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นโค 3 ตัว จังหวัดศรีสะเกษ 7 ตัว เป็นโค 6 ตัว กระบือ 1 ตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฝังกลบซากสัตว์เรียบร้อย
พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้สำนักงานปศุสัตว์ในพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการขอรับการเยียวยาตามเกณฑ์ทางราชการ
กรมปศุสัตว์ได้จัดตั้งศูนย์อพยพสัตว์และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เพื่อดูแลสุขภาพสัตว์เร่งด่วน โดยมีการแจกเสบียงหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานรวม 52,730 กิโลกรัม แบ่งเป็น สุรินทร์ 17,130 กิโลกรัม บุรีรัมย์ 16,600 กิโลกรัม ศรีสะเกษ 10,000 กิโลกรัม อุบลราชธานี 5,000 กิโลกรัม และสระแก้ว 4,000 กิโลกรัม พร้อมสนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ และวิตามิน) จำนวน 140 ชุด อพยพสัตว์แล้ว 1,112 ตัว และให้บริการตรวจสุขภาพ-รักษาสัตว์ 78 ตัว โดยหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่
นายสัตวแพทย์สมชวนกล่าวย้ำว่า กรมปศุสัตว์พร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนช่วยเหลือทั้งปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง โดยจะดำเนินการอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ผู้ได้รับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์สามารถกลับมาประกอบอาชีพตามปกติให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง