รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้อพยพจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เผยมีระบบ MOPH PHR ฉุกเฉิน ช่วยแพทย์และบุคลากรทั้ง 7 จังหวัดชายแดน เข้าถึงประวัติรักษาผู้ป่วยได้รวดเร็วและแม่นยำ ดูแลสุขภาพประชาชนในศูนย์พักพิงฯ ได้ทันทีในภาวะวิกฤต
วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์พักพิง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัย จากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นนี้ การมีระบบข้อมูลสุขภาพที่เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะทำให้สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตประชาชน ลดความเสี่ยง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาพยาบาลในพื้นที่วิกฤต ซึ่งภายในศูนย์พักพิงฯ ได้มีการสาธิตวิธีการดึงข้อมูลประวัติการรักษาส่วนบุคคลผ่านระบบที่ชื่อ “MOPH PHR ฉุกเฉิน” พบว่า ระบบสามารถเข้าถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและศักยภาพในการดูแลสุขภาพของประชาชนในยามวิกฤตที่ต้องหลบภัยอยู่ในศูนย์พักพิง และหน่วยบริการในพื้นที่ไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ ต้องขอบคุณทีมผู้พัฒนาระบบนี้ที่ร่วมด้วยช่วยกันในภาวะเช่นนี้ ซึ่งทั้ง 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา คือ สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี และตราด มีความพร้อมในการใช้ระบบ MOPH PHR ฉุกเฉินในการดูแลประชาชน
“การขับเคลื่อนระบบดิจิทัลสุขภาพในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยในระยะยาว โดยมีเป้าหมายที่จะขยายผลการเชื่อมโยงข้อมูล PHR ไปยังสถานพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีประวัติสุขภาพดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ลดขั้นตอน ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความปลอดภัยในการรักษาพยาบาล” นายอนุชากล่าว
ด้าน นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระบบ “MOPH PHR ฉุกเฉิน” เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ โดยระบบดังกล่าวอนุญาตให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับมอบหมาย สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยได้ทันที โดยใช้มาตรฐาน Provider ID ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และสงวนไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถขอความยินยอมจากผู้ป่วยได้โดยตรงเท่านั้น