กรมประมงจับมือ กฟผ. เปิดตัว “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” พร้อมดันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และหนุนอาชีพ สร้างรายได้ท้องถิ่น

กรมประมงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัว “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” ตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพการผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามได้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านตัว/ปี เพื่อปล่อยลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และแหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมผลักดันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมการประกอบอาชีพจากกุ้งก้ามกราม มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “กุ้งก้ามกรามเขื่อนอุบลรัตน์” เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากมีราคาจำหน่ายสูง เนื้อมีรสชาติดี และมีความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมประมงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและการเพิ่มศักยภาพการผลิตของกุ้งก้ามกรามในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เนื่องจากพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์มีลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน มีความเชื่อมโยงระหว่างดินและน้ำสูง และมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของกุ้งก้ามกราม ซึ่งที่ผ่านมา กรมประมง โดยศูนย์วิจัยการประมงน้ำจืดขอนแก่นได้ผลิตและปล่อยกุ้งก้ามกรามเป็นประจำปีละกว่า 5 ล้านตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์และแหล่งน้ำธรรมชาติโดยรอบมาตั้งแต่ปี 2524 และมีการติดตามและประเมินผลการจับกุ้งขึ้นใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากกว่า 9,000 กิโลกรัมต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 7.2 ล้านบาท

กรมประมงจึงร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการก่อสร้าง “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมอาชีพจากกุ้งก้ามกราม ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามให้กับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ควบคู่ไปกับการศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยีในการผลิต รวมถึงติดตามและประเมินผลการปล่อยกุ้งก้ามกรามในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายในโรงเพาะเลี้ยงฯ มีการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ขนาด 12 กิโลวัตต์ เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในระบบโรงเพาะฟัก สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึงร้อยละ 50 หรือประมาณ 6,000 – 8,000 บาทต่อเดือน อีกทั้ง เพิ่มกำลังการผลิตด้วยการจัดสร้างบ่อคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2×8 เมตร จำนวน 4 บ่อ สามารถอนุบาลลูกกุ้งก้ามกรามแรกคว่ำ ขนาด 0.8 – 1.0 เซนติเมตร ได้ถึง 2 ล้านตัวต่อรอบการผลิต และสามารถผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามได้มากกว่า 20 ล้านตัวต่อปี เมื่อรวมกับกำลังการผลิตของอาคารหลังเดิมจะทำให้มีศักยภาพการผลิตของศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30 ล้านตัวต่อปี และในอนาคตกรมประมงมีแผนที่จะขยายผลให้แก่วิสาหกิจชุมชนนำไปพัฒนาเป็นธุรกิจท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมการตลาดกุ้งก้ามกรามและผลักดันให้เป็นสินค้าเด่นของจังหวัดต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

กรมประมงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า “โรงเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามพลังงานแสงอาทิตย์” แห่งนี้ จะกลายเป็นแหล่งผลิตลูกพันธุ์กุ้งก้ามกรามที่สำคัญ และเป็นต้นแบบศูนย์กลางการเรียนรู้ที่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปจะสามารถนำองค์ความรู้ ที่ได้รับไปต่อยอดในการสร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน…อธิบดีฯ กล่าว